ข้อที่หนึ่งก็คือ ห้ามออกกำลังกายหนักมากจนเกินไป เพราะว่าการออกกำลังกายที่หนักที่มาจนเกินไปมีอันตรายมากๆในผู้ป่วยเบาหวานข้อแรกเลือดจะเป็นกรดสูงอาจจะทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยการที่เลือดเป็นกรดสูง ข้อสองอาจจะมีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
เพราว่ามันไปกระตุ้นทำให้หัวใจเราทำงานหนักมากกว่าปกติและโดนส่วนใหญ่ร่างกายไม่ได้แข็งแรงมากอยู่แล้ว ข้อสามอาจจะมีน้ำตาลต่ำได้ถ้าเราออกกำลังกายหนักมากจนเกินไป และ ข้อสี่อาจทำให้ตาบอดได้อันนี้อันตรายมากๆเพราะอะไรผู้ป่วยเมื่อมีภาวะเบาหวานขึ้นตาเส้นเลือดในตาจะมีปัญหาเวลาที่เราออกกำลังกายที่มีแรงต้านสูงๆเช่นยกน้ำหนัก50กิโลวิดพื้นเยอะๆ
แบบที่มีแรงต้านสูงๆเส้นเลือดในตาอาจจะแตกหรือเขาเรียกว่าอาจจะทำให้มีเลือดออกในตาทำให้ตาบอดได้เพราะฉะนั้นแนะนำให้ออกกำลังกายเป็นพวกแอโรบิคมากกว่าหรือว่าแรงต้านเบาๆเช่นกดยืดหรือโยคะอะไรแบบนี้ก็เหมาะสมมากกว่า
ข้อที่สองก็คือ ควรเช็คระดับน้ำตาลก่อนออกกำลังกายทุกครั้งโดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่หนึ่งที่ฉีดอินซูลิน เพราะว่าถ้าเกิดมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำเช่นต่ำกว่าร้อยแล้วเราไปออกกำลังกายพอออกแล้วมันจะลดลงมาอีกบางคนต่ำกว่า50แบบนี้ช็อคหมดสติถึงเสียชีวิตได้
นอกจากนี้ในผู้ป่วยที่ควบคุมน้ำตาลได้ดีแค่ทานยาแบบนี้อาจจะไม่ถึงขั้นซีเรียสอาจจะเช็คแค่ช่วงแรกอาทิตย์สองอาทิตย์ถ้าเราออกกำลังกายแล้วก็ไม่ได้ออกหนักขึ้นกว่าเดิมมากๆแบบนี้ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเช็คตลอดก็ให้ดูอาการเป็นหลักถ้ามีอาการหน้ามืดเหนื่อยใจสั่นเวียนหัวคลื่นไส้อาเจียนแบบนี้อันตรายต้องรีบอมลูกอม
เพราะฉะนั้นคุณต้องพกลูกอมเอาไว้กับตัวอยู่ตลอดเวลา เวลาเราไปออกกำลังกายจะได้ไม่หน้ามืดเป็นลมน้ำตาลจะช่วยท่านได้ คราวนี้มีเทคนิคการป้องกันภาวะน้ำตาลต่ำมาแทนด้วยหนึ่งก็คือออกกำลังกายเวลาเดิมสม่ำเสมอร่างกายจะได้ปรับตัวใช้เวลาไม่นานแค่30นาทีไม่เหนื่อยจนเกินไปให้หัวใจเต้นสัก100ครั้งต่อนาทีกำลังเหมาะสม
ทานอาหารว่างสักเล็กน้อยก่อนออกกำลังกายเช่นขนมปัง นม กล้วย ครึ่งลูกดื่มน้ำให้เพียงพอออกกำลังกายเป็นกลุ่มมีป้ายห้อยคอบอกว่าเราเป็นเบาหวานเพื่อเราเป็นอะไรจะได้มีคนพาเราไปโรงพยาบาลได้หรือช่วยรักษาได้และให้คุณพกลูกอมเอาไว้ติดตัวอยู่ตลอดถ้าหากว่าคุณเริ่มมีอาการหน้ามืดเวียนหัวให้คุณนั้นเอาลูกอมเลยมันจะช่วยคุณได้
สนับสนุนโดย หวยฮานอยย้อนหลัง