พ่อแม่หลายๆท่านที่มีลูกต้องการอยากให้ลูกของเรามีภาวะสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ไม่เจ็บป่วยได้ง่ายโดยเฉพาะเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 2 ขวบ ที่ภูมิต้านทานภายในร่างกายยังมีอยู่น้อย ทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย 1 ในนั้นคงหนีไม่พ้นโรคส่าไข้ในเด็ก หรือเรียกอีกอย่าว่าโรคหัดกุหลาบ เป็นโรคที่เกิดขึ้นในเด็กเล็ก
ซึ่งจะมีไข้สูงประมาณ 3 วัน เป็นไข้สูงตลอด อุณหภูมิอยู่ประมาณ 38-39 องศาเซลเซียส มีไข้สูงโดยไม่ทราบสาเหตุ และอาจจะไม่มีภาวะอย่างอื่นร่วมด้วย เหมือนกับการเป็นไข้หวัดธรรมดา หรือไข้หวัดใหญ่ โรคไข้ส่านี้เกิดจากการติดเชื้อไวรัส HHV6 ซึ่งจะแตกต่างจากเชื้อที่เกิดจากการเป็นไข้หวัดธรรมดา ที่เกิดจากการการติดเชื้อแบคทีเรีย พบว่าแนวทางการรักษาคือรักษาตามอาการไข้ที่เป็นอยู่
โดยหากมีไข้ให้เช็ดตัวลดไข้ ร่วมกับการกินยาพาราเซตามอล ไม่จำเป็นต้องได้รับยาฆ่าเชื้อ เพราะเป็นการติดเชื้อไวรัส สามารถหายได้เอง เมื่อดูแลได้ถูกต้องตามอาการที่เป็นอยู่ โดยอาการแสดงที่พบในเด็กที่เป็นส่าไข้ คือหลังจากที่ไข้ลดลง จะมีผื่นขึ้น โดยเริ่มจากบริเวณใบหน้า หลังจากนั้นผื่นจะขึ้นตามหลัง แขนขา
ซึ่งผื่นที่ขึ้นจะแตกต่างจากผื่นแพ้ทั่วไป โดยจะไม่มีอาการคัน อาการผื่นขิ้นจะเป็นอยู่ประมาณ 3 วัน หลังจากนั้นผื่นจะหายไปเอง โดยที่ไม่ทิ้งร่องรอยของผื่นหรือแผลเป็นไว้ แต่ถ้าหากมีผื่นขึ้นแต่ยังคงมีไข้สูง ควรรีบไปพบแพทย์ เพราะอาจจะไม่ใช่อาการของโรคส่าไข้ได้ ซึ่งการดูแลในระหว่างที่เด็กมีไข้สูง ควรมีการเช็ดตัวที่ถูกต้อง
โดยการเช็ดตัวขึ้นไปตามแขนขา ตามรอยเปิดของรูขุมขน เพื่อเพิ่มการระบายความร้อนให้ดีขึ้น นอกจากนี้เด็กบางคนจะมีอาการกินข้าวลำบาก ควรเน้นการรับประทานอาหารอ่อนที่กินได้ง่าย และดูแลให้จิบน้ำบ่อยครั้ง เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำในระหว่างที่มีการระบายความร้อนจากอาการไข้ การรับประทานยาลดไข้พาราเซตามอลบางครั้งอาจจะทำให้ไข้ไม่ลดลงทันที
ต้องหมั่นเช็ดตัวลดไข้ เพราะหากเด็กมีไข้สูงอาจเสี่ยงติอการเกิดภาวะชักในเด็กเล็กได้ เนื่องจากการทำงานของสมองทารกยังเจริญได้ไม่เต็มที่ การป้องกันการเกิดโรคส่าไข้ สามารถทำได้โดยการล้างมือเด็กเล็กบ่อยๆ ป้องกันการติดเชื้อไวรัสจากการเอามือเข้าปาก จากการไปเล่นของเล่นที่มีเชื้อไวรัสนั้นอยู่แล้ว ซึ่งโรคส่าไข้ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน ดังนั้นสิ่งที่พ่อแม่สามารถทำได้ง่ายๆก็คือการหมั่นล้างมือลูกบ่อยๆนั่นเอง
สนับสนุนโดย แทงหวยออมสิน