สุขภาพ

โรคที่ทำให้คุณขาบวมได้

อาการขาบวมเป็นอาการที่พบได้บ่อยมากๆเลยทีเดียวหลายคนก็มาบอกเราว่ามีอาการขาบวมจะเป็นโรคอะไรได้บ้างต้อบอกเลยว่าขาบวมก็เป็นสัญญาณหนึ่งเป็นอาการหนึ่งที่จะเป็นตัวบ่งบอกว่าเป็นโรคต่างๆเดี๋ยวเรามาดูกันว่าอาการขาบวมเป็นโรคอคะไรได้บ้าง

 

โรคที่หนึ่ง เส้นเลือดดำที่ขาอุดตัน โดยปกติหัวใจของเราก็จะบีบเลือดผ่านไปทางเส้นเลือดแดงแล้วก็ไปเลี้ยงขาพอไปเลี้ยงขาเสร็จแล้วก็จะไปเลี้ยงเส้นเลือดดำกลับเข้ามาสู่หัวใจอีกรอบหนึ่งแต่ถ้าเส้นเลือดดำของเราที่ขามีการอุดตันก็จะทำให้เลือดที่ไปเลี้ยงขาเสร็จแล้วมัมนกลับเข้าสู่หัวใจไม่ได้มันก็จะคั่งอยู่บริเวณขาทำให้ขาของเราบวมขึ้นๆ

โดยโรคนี้ส่วนมากจะบวมเพียงแค่ขาเดียวแล้วให้ลองสังเกตุดูว่าขาองเราบวมมากขึ้นอาจจะเป็นโรคเส้นเลือดดำที่ขาอุดตันก็ได้และสาเหตุเกิดจากหลายสาเหตุเลยอาจจะเกิดจากที่ลิ่มเลือดมันอุดตันก็ได้หรือว่าเกิดจากการที่มีก้อนอะไรไปกดเส้นเลือดดำทำให้มีการตีบมีการตันให้เลือดดำมันกลับเข้าสู่หัวใจไม่ได้ทำให้ขาบวมขึ้นมานั่นเอง

โรคที่ทำให้คุณขาบวมได้ ซึ่งต้องบอกเลยว่าโรคนี้จำเป็นที่จะต้องรีบไปพบแพทย์เพราะว่าถ้าบริเวณเส้นเลือดดำที่มันเป็นลิ่มเลือดที่มันอุดตันอยู่ๆมันหลุดเข้ามาและผ่านมาทางหัวใจมันก็จะทำให้หัวใจของเราอุดตันก็จะส่งผลทำให้เกิดอาการช็อกหัวใจวายได้เลยทีเดียวแนะนำเลยว่าหากมีอาการบวมขึ้นมารีบไปพบแพทย์เลยคุณอาจจะเป้นเส้นเลือดดำอุดตันแล้วก็ได้

โรคที่สองก็๕อ ต่อมน้ำเหลืองอุดตัน โดยปกติที่ขาเรานอกจากจะมีเส้นเลือดแดงเส้นดำแล้วก็จะมีต่อมน้ำเหลืองนั่นเองถ้าวันดีคืนดีต่อนน้ำเหลืองของเรามันอุดตันที่จะเกิดได้หลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นการาติดเชื้อจากมะเร็งก็ได้หรือว่าจากการฉายแสงก็ได้ก็จะส่งผลทำให้ขาของเราบวม

ซึ่งต้องบอกเลยว่าโรคนี้ก็บวมขาเดียวเหมือนกันถ้ามีอาการบวมขาเดียวก็ให้รีบไปพบแพทย์เพราะว่าคุณอาจจะเป็นต่อมน้ำเหลืองดันแล้วก็ได้

โรคที่สามก็คือ ขาอักเสบติดเชื้อ หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Ccellulitis โรคนี้เกิดจากการที่ขาของเราหรือว่าเท้าของเรามีการติดเชื้อส่วนมากก็จะเป็นพวกเชื้อแบคทีเรียอาจจะเกิดจากแผลก็ได้หรือว่าจะเกิดจากสาเหตุอะไรต่างๆทำให้ขาของเราอักเสบมากขึ้นสังเกตได้ว่าขาของเรามีอาการบวมและมีอาการปวดบวมแดงร้อนขึ้นมาให้รีบไปพบแพทย์ด่วน

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    เครื่องช่วยฟังราคาเท่าไหร่

สุขภาพ

อาการโรคมะเร็งปากมดลูก มีอาการที่จะสามารถรู้ได้อย่างไรบ้าง

จริงๆแล้วโรคอันตรายรุนแรงของเพศหญิงโดยเฉพาะอย่างยิ่งก็มีไม่กี่โรคหรอกที่สามารถรู้ได้ง่ายๆ หนึ่งในซึ่งก็คือ โรคมะเร็งปากมดลูก ที่หลายๆ คนต้องสงสัยว่าตนเองกำลังเสี่ยง หรือกำลังจะเป็นโรคมะเร็งปากมดลูกอยู่หรือไม่ เวลาเจ็บท้องรอบเดือนหนักๆ นับว่าเป็นอาการที่จะก่อให้เกิดโรคนี้หรือเปล่า และก็มีลักษณะอาการโรคมะเร็งปากมดลูก เช่นไร เราได้มีการหาคำตอบมาให้แล้ว

อาการมะเร็งปากมดลูก

  • มีเลือดไหลจากช่องคลอดอย่างไม่มีสาเหตุ อย่างเช่น ขณะ หรือหลังมีเซ็กส์ หลังตรวจภายใน
  • จะมีมีเลือดไหลจากช่องคลอด หลังหมดเมนส์แล้ว หรือเมนส์มามากเยอะแตกต่างจากปกติ
  • มีตกขาวอย่างชัดเจน และก็อาจมีเลือดผสม
  • มีความรู้สึกเจ็บ ขณะมีเซ็กส์
  • มีสารคัดเลือกหลั่งออกมาจากช่องคลอดมากแตกต่างจากปกติ หรือบางทีอาจผสมเลือด
  • ฉี่หลายครั้ง หรือบางทีอาจปวดบวม ฉี่ไม่ออก
  • เหน็ดเหนื่อย หมดแรง
  • เบื่อข้าว ผอมเกร็ง น้ำหนักลงอย่างไม่เคยทราบมูลเหตุ
  • เจ็บท้องน้อย

ถ้าหากอาการร้ายแรงขึ้น ก็สามารถที่จะเกิดอาการอื่นร่วมด้วย ตัวอย่างเช่น ขาบวม ปวดหลัง ฉี่มีเลือดผสม และอื่นๆอีกมากมาย

จะรู้ได้เลยว่าอาการโรคมะเร็งปากมดลูกที่ดูได้ง่ายๆ เป็นมีเลือดไหลจากช่องคลอดขณะ หรือหลังมีเซ็กส์ รวมถึงอาการตกขาวที่อาจมีเลือดผสม ถ้าเกิดเจออาการดังกล่าวข้างต้น บวกกับอาการในหลายๆข้อด้วยแล้วล่ะก็ ควรที่จะไปหาหมอให้เร็วเลย แต่ว่าหากแม้จะเป็นโรคมะเร็งปากมดลูก  อาการโรคมะเร็งปากมดลูก    ก็ยังมีแนวทางป้องกันด้วยนะ

มะเร็งปากมดลูกพบได้ในใครบ้าง ?

จะเจอได้ในผู้หญิงถัดลงมาจาก โรคมะเร็งเต้านม โดยข้อมูลนี้ก็รวมทั้งในประเทศไทยด้วย ทั้ง โรคมะเร็งปากมดลูกก็ยังเป็นโรคที่จะมีการเกิดขึ้นในผู้หญิงที่มีช่วงอายุตั้งแต่ 30 – 70 ปี พบบ่อยในช่วงอายุ 45 – 55 ปี แต่ว่าก็มิได้มีการพบได้ในเพศหญิงที่มีอายุน้อยกว่า 30 ปีลงไป รวมทั้งคนชราที่มีอายุสูงกว่า 70 ปีขึ้นไป

ผู้หญิงควรเริ่มตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเมื่อใด ?

สำหรับในการเริ่มตรวจคัดเลือกกรองโรคมะเร็งปากมดลูกนั้น เพศหญิงที่มีเซ็กส์ทุกช่วงอายุน่าจะเดินทางไปตรวจค้นหาโรคมะเร็งปากมดลูกอยู่เป็นประจำ หรือที่เรียกกันว่า การตรวจแป๊บสเมียร์ อย่างต่ำปีละ 1 ครั้ง ส่วนเพศหญิงที่ไม่เคยร่วมเพศ ควรจะเริ่มตรวจคัดเลือกกรองเมื่อมีอายุราวๆ 21 – 25 ปีขึ้นไป ซึ่งแม้เจอความผิดแปลก หมอก็อาจมีการตรวจอื่นๆเพิ่มเติมอีก ตัวอย่างเช่น การตรวจแป๊บสเมียร์ซ้ำ หรือนัดหมายตรวจแป๊บสเมียร์หลายครั้งขึ้น หรือพิเคราะห์ตัดชิ้นเนื้อปากมดลูกสำหรับการเอาไปตรวจทางพยาธิวิทยา  เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ   ดังนี้ก็ขึ้นกับสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงของคนไข้ รวมทั้งดุลยพินิจของหมอเป็นหลัก

สุขภาพ

ลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนยุค 2022  ไม่ยากอีกต่อไป 

เพื่อนๆและสาวๆ ที่อยากลดน้ำหนักยุค 2022 ไม่ยากอีกต่อไปแล้วนะ ลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนยุค เพราะว่ายุคนี้มีตัวเลือกหรือทางเลือกสำหรับคนรักสุขภาพมากมายเลยละ เพื่อนๆและสาวๆ ที่อยากลดน้ำหนักหรือลดความอ้วน สามารถทำได้เลย ง่ายๆเลยไม่เชื่อลองทำตามดูสิ ไปเริ่มกันเลย 

-ตั้งเป้าหมายและวางแผนการกินได้เลย

เพื่อนๆ และสาวๆ แค่เริ่มจากความตั้งใจก่อนเลยและวางแผนการกินได้เลย 

การตั้งเป้าหมายเพื่อนๆ และสาวๆ อาจจะตั้งให้ไม่ไกลเกินเอื้อมไปนะ ค่อยๆ ทำให้ถึงเป้าหมายและทำต่อให้สำเร็จ และเริ่มวางแผนการกินได้เลยเพราะว่าการวางแผนการกินจะช่วยทำให้เพื่อนๆ และสาวๆ กินอาหารได้ครบหมู่

-โหลดแอปแจ้งแคลอรี่ 

เพื่อนๆ และสาวๆ เช็คค่าแคลอรี่ที่ควรกินในแต่ละวัน ได้โหลดเพียงแค่โหลดแอปที่ช่วยคำนวณแคลอรี่เวลาเรากินอาหารอะไรไปบ้าง ซึ่งมันสะดวกและสบายสุดๆไปเลย แนะนำว่าให้เพื่อนๆและสาวๆ ใช้ทุกวันจนเริ่มรู้แคลอรี่อาหารเอาก็ได้นะ 

-ออกกำลังกายตามคลิป

เพื่อนๆและสาวๆ คนไหนที่อยากออกกำลังกายไม่จำเป็นที่จะต้องไปที่ฟิตเนส อีกต่อไป เพื่อนๆและสาวๆ สามารถเลือกคลิปที่อยากออกกำลังกายตามคลิปได้เลย เพราะว่าเดี๋ยวนี้มีคลิปแนะนำต่างๆ มาให้เลือกมากมายเลยละ ไม่ว่าจะเป็นเน้นต้นขา ต้นแขน หรือ เน้นเผาผลาญทั้งตัว ก็มีนะ 

-เลือกซื้อเครื่องปรุงและอาหารสุขภาพ

เพื่อนๆและสาวๆ สามารถที่จะเลือกซื้อเครื่องปรุงทางเลือกหรือเครื่องปรุงเพื่อสุขภาพได้เลยเพราะว่ามันจะช่วยทำให้อาหารคุณคลีนมากขึ้นค่ะ และแนะนำให้เพื่อนๆและสาวๆ เลือกซื้ออาหารสุขภาพได้เลย เพราะเดี๋ยวนี้มีขายตามร้านค้าทั่วไปหรือร้านอาหารสุขภาพด้วยนะ 

-หันมาทำอาหารคลีนกินเอง

เพื่อนๆและสาวๆ ลองหันมาทำอาหารคลีนกินเองก็ได้นะ หากซื้อแล้วไม่ถูกใจก็เลือกทำเองตามใจชอบได้เลยเพราะว่ามีทั้งเครื่องปรุงทางเลือก และวัตถุดิบเพื่อสุขภาพเยอะแยะมากเลยละ เพื่อนๆ และสาวๆ สามารถเลือกทำอาหารตามใจได้เลย เพราะมีคลิปแนะนำวิธีการทำอาหารคลีนเยอะเลยเดี๋ยวนี้

-หาขนมเพื่อสุขภาพหรือของว่างที่มีประโยชน์

เพื่อนๆและสาวๆ ที่อยากจะดูแลหุ่น แนะนำว่าเพื่อนๆและสาวๆ หาขนมเพื่อสุขภาพและของว่างที่มีประโยชน์มากินแทนขนมทั่วไปก็ดีนะ มันจะช่วยเรื่องแคลอรี่ไม่สูงและขนมเพื่อสุขภาพยังช่วยลดแคล และเพิ่มโปรตีนให้เพื่อนๆ ได้ด้วยนะ ลองเลือกมากินดูสิ

-นอนให้เยอะ ดื่มน้ำให้มาก

เพื่อนๆและสาวๆ หลายๆคน หันมานอนให้เยอะ และ ดื่มน้ำให้มากสิ มันดีต่อสุขภาพและก็ดีต่อระบบเผาผลาญในร่างกายได้ดีด้วยนะ ดังนั้นนอนและดื่มน้ำให้เยอะๆ เข้าไว้นะ เพื่อหุ่นที่ดีของเรา

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จหรือใส่ถ่านดีกว่ากัน

สุขภาพ

เคล็ดลับกินดียิ่งสุขภาพดี

นอกจากการออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรงใหแก่ร่างกายแล้วนั้น รู้หรือไม่ว่าสิ่งสำคัญที่เราควรทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกายนั้น คือ การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชนื หรือการเลือกแต่สิ่งดี ๆ เพื่อสุขภาพร่างกาย ยิ่งถ้าเราทำทั้งสองอย่างนี้ควบคู่ไปด้วยกัน

เคล็ดลับกินดียิ่งสุขภาพดี ขอบอกเลยว่าจะยิ่งส่งผลให้เรามีสุขภาพร่างกายดีและแข็งแรงได้ ยิ่งไปกว่านั้นคือ จะยิ่งทำให้ระบบภูมิคุ้มกันโรคในร่างกายของเรานั้นแข็งแรงมากขึ้นอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้การใช้ชีวิตของคนเราก็มักที่จะมีความแตกต่างกันออกไป บางคนทำงานและมีเรื่องที่ต้องให้กดดัน หรือมีเรื่องที่ต้องให้เครียดอยู่ตลอดเวลา จนส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อสุขภาพร่างกาย เพราะการที่เราไม่ได้ดูแลตนเองให้ดีอยู่ตลอดเวลา จะไม่เพียงแต่ทำให้เรามีสุขภาพร่างหายที่ไม่แข็งแรง

แต่อาจสงผลกระทบ ทำให้ร่างกายอ่อนแอจนเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายต่าง ๆ ได้ง่ายมากขึ้นนั่นเอง ดังนั้นแล้ว การมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ไม่ว่าจะเป็นจากภายในสู่ภายนอก ล้วนเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะทำให้การดำเนินชีวิตของเรานั้นเป็นไปอย่างราบรื่น ฉะนั้น  เครื่องช่วยฟังที่เสียงรบกวนน้อยที่สุด     วันนี้เราจึงจะมาแนะนำเคล็ดลับในการเลือกกินอย่างให้สุขภาพดี ซึ่งก็เป็นวิธีที่จะช่วยให้คุณนั้นมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรได้อย่างแน่นอน จะมีอะไรกันบ้างนั้นไปดูกันเลย 

การรู้ปริมาณการกิน สำหรับใครที่อยู่ในช่วงของการลดน้ำหนักจะทราบเป็นย่างดีว่า การทานอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณที่เหมาะสมนั้นจะส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกาของเรามากขนาดไหน ยิ่งถ้าใครที่อยากมีรูปร่างที่สวยผอม การควบคุมอาหารจึงเป้นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามไปอย่างเด็ดขาด การจะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงก็เช่นกัน หากเรารู้จักจำกัดปริมาณในการกิน ควบคุมแคลอรี ในอาหารแต่ละมื้อ ก็จะยิ่งทำให้เรามีสุขภาพร่างกายที่ดี และแข็งแรงมากยิ่งขึ้น 

การรู้จักกินแบบหลากหลาย ถึงแม้ว่าอาหารที่มีประโยชน์จะมีให้เราเลือกกินได้ไม่มากแต่ แต่ถ้าเรารู้จัก และเข้าใจในวิธีการกิน กินแบบหลากหลายรูปแบบ ก็อาจส่งผลให้ร่างกายของเรามีการทำงานที่เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นก็ได้ ซึ่งการทานอาหารแบบหลากหลายนั้นอาจหมายความได้ว่า การกินอาหารหลากหลายประเภท ในหมู่เดียวกัน ใครบทุกมื้อ โดยอาจเน้นไปที่ผักไม้ หรือสารอาหารที่มีประโยชน์มาก ๆ ต่อสุขภาพร่างกาย 

การรู้จักเวลา เวลาก็ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่เราไม่ควรมองข้าม เพราเมื่อไหร่ก็ตามที่เราเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ แต่เลือกทานในเวลาที่ไม่เหมาะสมก็อาจส่งผลเสียต่อร่างกายของเราได้ ถึงแม้อาหารเหล่านั้นจะมีประโยชน์ต่อร่างกายเรามากแค่ไหนก็ตาม ฉะนั้น ทางที่ดีควรเลือกเวลาในการทานให้เหมาะสมต่อร่างกายมากที่สุด จะยิ่งดีต่อร่างกาย 

สุขภาพ

เคล็ดลับการวิ่งอย่างไรให้ห่างไกลการเป็นตะคริว

การเป็นตะคริวนั้น เป็นอาการหนึ่งที่เกิดขึ้นได้บ่อย และเป็นอาการที่เรามักพบเจอกันบ่อยมาก ๆ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเกิดขึ้นจากการทำกิจกรรมต่าง ๆ

ห่างไกลการเป็นตะคริว รวมไปถึงการเล่นกีฬาอีกด้วย เนื่องจากว่าเป็นอาการที่เกิดขึ้นจากการที่กล้ามเนื้อภายในร่าวกายของเรานั้นทำงานหนักเกินไป หรืออาจเกิดขึ้นจากการที่กล้ามเนื้อเกิดการหดเกร็ง จนส่งให้เกิดเป็นตะคริวนั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่าถึงแม้อาการดังกล่าวจะดูเป็นอาการที่อันตราย แต่ก็ทำให้คนส่วนใหญ่มองว่าเป็นเพียงอาการธรรมดาที่เกิดขึ้นก็เท่านั้น

เนื่องจากว่าเกิดขึ้นบ่อยจนทำให้หลาย ๆ คนนั้นเกิดความชิน แต่อย่างไรก็ตาม ทางที่ดีหากไม่เกิดขึ้นก็ย่อมดีกว่าอยู่แล้ว เพราะไม่ว่าใครก็ไม่อยากมีอาการ หรือมีโรคร้ายเกิดขึ้นกับสุขภาพร่างกายอยู่แล้ว ดังนั้น สำหรับใครที่ชื่นชอบการเล่นกีฬา โดยเฉพาะการวิ่ง เพราะเป็นกิจกรรมที่พบเจอการเป็นตะคริวได้บ่อยมาก ๆ เพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการเป็นตะคริว วันนี้เราก็จะมาแนะนำเคล็ดลับที่จะทำให้การวิ่งนันปลอดภัย และห่างไกลจากการเป็นตะคริว ซึ่งวิธีดังกล่าก็เป็นวิธีง่าย ๆ จะมีอะไรกันบ้างนั้น ไปดูกันเลย 

ควรที่อุ่นหรือเตรียมร่างกายให้พร้อมอยู่เสมอ อย่างที่เราทราบกันดีว่า สิ่งสำคัญของการเล่นกีฬานั้น ไม่ว่าจะเป็นประเภทไหนก็ตาม เราควรที่จะอุ่น หรือเตรียมร่างกายให้พร้อมอยู่เสมอ เพราะการที่เราเตรียมร่างกายให้พร้อม จะทำให้ร่างกายของเรานั้นมีแรงในการทำกิจกรรมมากยิ่งขึ้น แถมยังช่วยให้การวิ่งของเรานั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย และที่สำคัญเลยก็คือ สามารถช่วยป้องกันร่างกายเราจะการเป็นตะคริวได้อีกด้วย

ควรวิ่งเบา ๆ ไปก่อน สำหรับใครที่พึ่งจะเริ่มออกกำลังกายด้วยวิธีการวิ่ง ขอบอกเลยว่า ควรที่จะเริ่มจากการวิ่งเบา ๆ ไปก่อน ไม่ควรวิ่งเร็วมากเกินไป เพราะจะยิ่งทำให้ร่างกายของเรานั้นทำงานหนัก จนเสี่ยงต่อการเป็นตะคริวได้ ฉะนั้น ทางที่ดี ควรเริ่มต้นจากเบา แล้วจึงค่อย ๆ ไตระดับไปเรื่อย ๆ ค่อย ๆ เพิ่มไปทีละนิด เพื่อไม่เป็นการใช้งานร่างกายมากเกินไป และเพื่อป้องกันร่างกายเราจากการเป็นตะคริวนั่นเอง 

ควรวิ่งเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ อย่างที่เราทราบกันดีว่า การที่เราออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะยิ่งดีต่อสุขภาพร่างกาย การวิ่งก็เช่นกัน หากเราวิ่งอย่างสม่ำเสมอ ค่อย ๆ เพิ่มระดับไปทีละนิดทีละน้อยเพื่อให้สมเหตุสมผล ซึ่งวิธีนี้นอกจากจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกายของเราได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังช่วยป้องกันกล้ามเนื้อของเราจากการเป็นตะคริวได้อีกด้วย 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    เครื่องช่วยฟังที่เสียงรบกวนน้อยที่สุด

สุขภาพ

อาการของเส้นโลหิตตีบหลายเส้นและวิธีการรักษา

อาการของเส้นโลหิตตีบหลายเส้น ผู้ที่เป็นโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (MS) อาจมีอาการมากมาย ในแต่ละวัน สิ่งเหล่านี้อาจแตกต่างกันไปตามประเภท ความรุนแรง และความก้าวหน้า บางคนมีอาการเพียงเล็กน้อยในขณะที่บางคนมีอาการที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อชีวิตประจำวันของพวกเขา

หลายเส้นโลหิตตีบคืออะไร MS เป็นภาวะสุขภาพเรื้อรังที่ส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง (CNS) CNS ของคุณประกอบด้วยสมอง ไขสันหลัง และเส้นประสาทตา ในกรณีของ MS ระบบภูมิคุ้มกันของคุณจะโจมตีปลอกไมอีลินของคุณ นี่คือชั้นที่ปกป้องเส้นประสาทของคุณและช่วยส่งกระแสประสาท การพังทลายของไมอีลินนี้จะขัดขวางหรือขัดขวางการส่งสัญญาณไฟฟ้าที่เคลื่อนที่ไปตามเส้นประสาทของคุณ ซึ่งจะทำให้การสื่อสารระหว่างสมองและร่างกายของคุณช้าลง ความเสียหายของเส้นประสาทก็เกิดขึ้นเช่นกัน อาการของ MS อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเส้นประสาทที่ได้รับผลกระทบและความเสียหายของเส้นประสาทเท่าใด

กลุ่มอาการทางคลินิกแยก (CIS) นี่เป็นอาการทางระบบประสาทที่เกิดขึ้นครั้งแรก เช่น ชาและรู้สึกเสียวซ่าที่ขา นี่อาจเป็นครั้งเดียวที่คุณจะมีอาการ MS สำหรับโรคที่จะวินิจฉัยได้ คุณต้องมีอาการมากกว่า 1 ตอน จักษุประสาทอักเสบ นี่คือเมื่อหนึ่งหรือทั้งสองเส้นประสาทตาอักเสบ เส้นประสาทเหล่านี้บอกสมองของคุณว่าดวงตาของคุณมองเห็นอะไร การมองเห็นของคุณอาจพร่ามัวหรือมีหมอก และการรับรู้สีของคุณอาจดูไม่สดใส ดวงตาของคุณอาจเจ็บเมื่อขยับ อาการเหล่านี้มักจะดีขึ้นหลังจากผ่านไปสองสามสัปดาห์ถึงประมาณหนึ่งเดือน

อาการทั่วไปของ MS มีอะไรบ้าง ในขณะที่โรคดำเนินไป อาการของ MS ในระยะเริ่มต้นอาจกลับมาและอาจมีอาการใหม่ อาการ MS อาจรวมถึงปัญหาการมองเห็น เช่น โรคประสาทอักเสบตา, ภาพซ้อน (การมองเห็นสองครั้ง), อาตา (การเคลื่อนไหวของดวงตาโดยไม่สมัครใจ) หรือตาบอด ปัญหาการเดินเนื่องจากปัญหาการมองเห็น การทรงตัวหรือการเดิน กล้ามเนื้ออ่อนแรง ตึง ชา หรือกระตุก

Dysarthria ภาวะที่เกิดจากแผลในสมองซึ่งทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น พูดไม่ชัด การเปลี่ยนแปลงของปริมาณการพูดและการ “สแกน” หรือการค้นหาคำเมื่อคุณพูด ซึ่งจะมีการหยุดยาวระหว่างพยางค์และคำพูด คุณอาจมี ปัญหากระเพาะปัสสาวะหรือลำไส้ ปัญหาทางปัญญา เช่น ปัญหาเกี่ยวกับความจำ การจดจ่อ หรือการแก้ปัญหา Dysesthesia หรือที่เรียกว่า MS Hug เพราะมันทำให้เกิดความรู้สึกบีบตัวรอบลำตัวของคุณ ปวดหรือคัน ปัญหาทางเพศ ปัญหาการนอนหลับ กลืนหรือเคี้ยวลำบาก อาการสั่น

การลุกเป็นไฟของ MS (เรียกอีกอย่างว่าอาการกำเริบหรือการโจมตี) สามารถอยู่ได้นานหลายวันถึงหลายเดือนในแต่ละครั้งตามด้วยระยะเวลาของการให้อภัยเมื่อมีอาการเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย อาการ MS แตกต่างกันในผู้สูงอายุหรือไม่ MS ที่เริ่มมีอาการช้า (LOMS) คือเมื่อสัญญาณและอาการของโรคแรกปรากฏขึ้นในผู้สูงอายุ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นหลังจากอายุ 50 ปี อาการ LOMS มักจะเหมือนกับที่เกิดขึ้นกับ MS ที่เริ่มมีอาการปกติโดยมีความแตกต่างเล็กน้อย ความพิการมีแนวโน้มที่จะก้าวหน้าเร็วขึ้น อาจเกิดการลุกเป็นไฟน้อยลง อาการอาจเกิดขึ้นบ่อยขึ้น ปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็น ประสาทสัมผัส และการเคลื่อนไหวเป็นอาการสำคัญ

 

สนับสนุนเน้ือหาโดย    เครื่องช่วยฟังราคาถูก

สุขภาพ

ท่าโยคะ ช่วยบรรเทาอาการปวดหลัง

มันยอดเยี่ยมสำหรับความสมดุล ความยืดหยุ่น และความแข็งแรง แต่ประโยชน์ของโยคะไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น

อาการปวดหลังทำให้คุณช้าลง? ท่าโยคะง่ายๆ 8 ท่านี้แนะนำโดยผู้สอนโยคะที่ผ่านการรับรองและนักบำบัดโยคะ Michelle Smith อาจช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายได้ Smith ซึ่งทำงานที่ Geisinger Medical Center ในแดนวิลล์ รัฐเพนซิลเวเนีย นำเสนอวิธีการรักษาแบบผสมผสาน ได้แก่ การบำบัดด้วยโยคะ การนวดบำบัด เรกิและการบำบัดด้วยเสียงแบบสั่น แก่ผู้ป่วย เจ้าหน้าที่ และประชาชนทั่วไป “ไม่ว่าจะเป็นโยคะบนเก้าอี้ธรรมดาๆ หรือท่าขั้นสูงที่ต้องใช้ความพยายาม อาจมีโยคะระดับหนึ่งที่เหมาะกับคุณ” เธอกล่าว หากคุณมีข้อสงสัยใดๆ ให้ปรึกษาแพทย์ของคุณก่อนเริ่มโปรแกรมการออกกำลังกายนี้หรือโปรแกรมอื่นๆ”

ท่าโยคะสำหรับอาการปวดหลัง ลองท่าเหล่านี้เพื่อผ่อนคลายและเสริมสร้างกล้ามเนื้อที่เจ็บ ท่าแมว-วัว ส่วนโค้งหลังที่นุ่มนวลนี้ช่วยเพิ่มพลังให้กับกระดูกสันหลังและช่วยให้กล้ามเนื้อของคุณยืดตัวได้ดี เกร็งทั้งสี่ ข้อมืออยู่ใต้ไหล่และเข่าอยู่ใต้สะโพก หายใจออกขณะที่คุณเอาคางแนบหน้าอก ดึงสะดือเข้าหากระดูกสันหลัง และแอ่นกระดูกสันหลังเข้าหาเพดาน

หายใจเข้า เงยหน้าขึ้นมองเพดานและปล่อยให้กระดูกสันหลังหย่อนลง หย่อนท้องลงไปที่เสื่อ

ทำซ้ำการเคลื่อนไหวขึ้นและลงสลับกันเหล่านี้

สุนัขก้มหน้าลง การก้มตัวไปข้างหน้าแบบดั้งเดิมนี้ช่วยสร้างความแข็งแรงและสามารถช่วยในเรื่องอาการปวดหลังและอาการปวดตะโพกได้ เกร็งทั้งสี่ ข้อมืออยู่ใต้ไหล่และเข่าอยู่ใต้สะโพก กดมือของคุณขณะที่คุณขยับนิ้วเท้า ยกสะโพกขึ้นไปบนเพดาน งอเข่าเล็กน้อยขณะที่ยืดกระดูกสันหลัง ให้ส้นเท้าลอยจากพื้นเล็กน้อยขณะที่คุณกดมือลงบนเสื่อ ให้ศีรษะอยู่ในแนวเดียวกันกับต้นแขน กดค้างไว้นานเท่าที่คุณสะดวก

ท่างูเห่า ด้วยท่าเอนหลังนี้ คุณสามารถเสริมความแข็งแรงของกระดูกสันหลังและอาจบรรเทาอาการปวดตะโพกได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังช่วยให้หน้าท้อง หน้าอก และไหล่ของคุณยืดหดได้ นอนคว่ำมือไว้ใต้ไหล่และนิ้วชี้ไปข้างหน้า

ดึงแขนให้แน่นไปที่หน้าอกของคุณ เก็บข้อศอกไว้ข้างลำตัว กดมือของคุณลงบนเสื่อแล้วยกศีรษะ หน้าอก และไหล่ขึ้นช้าๆ ยกขึ้นบางส่วน ครึ่งทาง หรือจนสุดในขณะที่งอข้อศอกเล็กน้อย เอียงศีรษะไปข้างหลังหากคุณต้องการให้ท่าทางลึกขึ้น

ถือท่าทางนานเท่าที่คุณต้องการ หายใจออกขณะที่คุณปล่อยตัวลงบนเสื่อ

นั่งบิดกระดูกสันหลัง การบิดนี้ช่วยเพิ่มพลังให้กับกระดูกสันหลังและช่วยบรรเทาอาการปวดหลังในขณะที่สะโพก ไหล่ และคอยืดได้ดี นั่งบนพื้น ดึงเท้าขวาเข้ามาใกล้กับสะโพกซ้าย วางเท้าซ้ายไว้ที่ด้านนอกของขาขวา ยืดกระดูกสันหลังของคุณให้ยาวขึ้นเมื่อคุณบิดลำตัวไปทางซ้าย วางมือซ้ายไว้ข้างหลังเพื่อรับการสนับสนุน

ขยับต้นแขนขวาไปที่ด้านนอกของต้นขาซ้าย หรือพันข้อศอกรอบเข่าซ้าย อย่าขยับสะโพก หันศีรษะเพื่อมองข้ามไหล่ของคุณ ถือท่าทางนานถึงหนึ่งนาที ทำซ้ำในอีกด้านหนึ่ง

ท่าสามเหลี่ยม ท่ายืนนี้ช่วยยืดกระดูกสันหลัง สะโพก และขาหนีบของคุณ และสามารถช่วยในเรื่องอาการปวดคอ อาการปวดตะโพก และหลัง วางเท้าห่างกันประมาณ 4 ฟุต เท้าขวาชี้ไปข้างหน้าและเท้าซ้ายชี้เป็นมุมฉาก ยกแขนขนานกับเสื่อโดยให้ฝ่ามือคว่ำลง บานพับที่สะโพกขวาเพื่อเอียงไปข้างหน้าพร้อมกับแขนและลำตัว วางมือขวาบนเสื่อ บล็อกโยคะ หรือขาของคุณ อะไรก็ได้ที่เหมาะกับคุณ ยืดแขนซ้ายขึ้นไปบนเพดาน กดค้างไว้นานเท่าที่คุณสะดวก ทำซ้ำสำหรับฝั่งตรงข้าม

 

สนับสนุนโดย.    เครื่องช่วยฟังราคาเท่าไหร่

สุขภาพ

การออกกำลังกายระดับปานกลาง

เช่นการเดินเร็วหรือชั้นเรียนโยคะสามารถช่วยสุขภาพหัวใจของคุณได้อย่างไร การออกกำลังกายในระดับปานกลาง เช่น การเดิน ปั่นจักรยาน และโยคะ

สามารถช่วยให้ผู้คนลดความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลวได้ตามการศึกษาใหม่ การออกกำลังกายที่หนักแน่นยังช่วยลดความเสี่ยงของภาวะหัวใจล้มเหลวได้ แต่นักวิจัยกล่าวว่าการออกกำลังกายอย่างกระฉับกระเฉงในปริมาณที่สูงมากอาจไม่ให้ประโยชน์เพิ่มเติม

การออกกำลังกายระดับปานกลาง ผลการศึกษาใหม่ระบุว่า การออกกำลังกายในระดับปานกลางบ่อยขึ้นในช่วงสัปดาห์สามารถช่วยคนอเมริกันจำนวนมากลดความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลวได้ การออกกำลังกายในระดับปานกลางรวมถึงกิจกรรมที่น่าเชื่อถือ เช่น การเดินด้วยความเร็วปานกลางหรือเร็ว การปั่นจักรยาน โยคะ เทนนิส บาสเก็ตบอล การเต้นรำ และการว่ายน้ำเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ

การออกกำลังกายที่หนักหน่วงมากขึ้นอาจช่วยลดความเสี่ยงของภาวะหัวใจล้มเหลวได้ แต่นักวิจัยกล่าวว่าการออกกำลังกายอย่างกระฉับกระเฉงในปริมาณที่สูงมากอาจไม่ให้ประโยชน์เพิ่มเติม นอกจากนี้ พวกเขาพบว่าการออกกำลังกายที่หนักแน่นมีประโยชน์สูงสุดเมื่อผู้คนทำกิจกรรมที่มีความเข้มข้นปานกลางในระหว่างสัปดาห์ด้วย

การศึกษานี้สอดคล้องกับงานวิจัยอื่นๆ แหล่งที่เชื่อถือได้ ซึ่งแสดงให้เห็นความเชื่อมโยงระหว่างการออกกำลังกายเป็นประจำกับสุขภาพของหัวใจที่ดีขึ้น ซึ่งรวมถึงความเสี่ยงที่ลดลงของโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคหลอดเลือดหัวใจ

แต่ด้วยการใช้ตัวติดตามกิจกรรมเพื่อติดตามความถี่และวิธีที่ผู้คนเคลื่อนไหวในระหว่างสัปดาห์ นักวิจัยสามารถแยกแยะประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับหัวใจจากการออกกำลังกายระดับปานกลางและที่กระฉับกระเฉงได้ ลดความเสี่ยงของภาวะหัวใจล้มเหลว ในการศึกษาซึ่งตีพิมพ์เมื่อวันที่ 29 สิงหาคมในวารสาร CirculationTrusted Source นักวิจัยได้วิเคราะห์ข้อมูลระหว่างปี 2556 ถึง 2558 กับผู้ใหญ่มากกว่า 94,000 คนที่ลงทะเบียนใน UK Biobank ซึ่งเป็นฐานข้อมูลการวิจัยขนาดใหญ่ที่มีข้อมูลด้านสุขภาพของผู้ใหญ่ครึ่งล้านคนในสหราชอาณาจักร

สำหรับการศึกษาในปัจจุบัน ผู้เข้าร่วมจะสวมเครื่องวัดกิจกรรมบนข้อมือเป็นเวลาเจ็ดวันติดต่อกัน 24 ชั่วโมงต่อวัน สิ่งนี้ทำให้นักวิจัยมีข้อมูลเกี่ยวกับความเข้มข้นและระยะเวลาของการออกกำลังกายของผู้คน

ไม่มีผู้ที่เกี่ยวข้องในการศึกษานี้ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นภาวะหัวใจล้มเหลวหรือเคยมีอาการหัวใจวายมาก่อน นักวิจัยติดตามผู้เข้าร่วมโดยเฉลี่ย 6.1 ปีหลังจากที่พวกเขาวัดระดับกิจกรรม เพื่อดูว่ามีคนจำนวนเท่าใดที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นภาวะหัวใจล้มเหลวในช่วงเวลานั้น

ภาวะหัวใจล้มเหลว Trusted Source เกิดขึ้นเมื่อหัวใจไม่สูบฉีดเลือดเท่าที่ควร สิ่งนี้อาจทำให้เลือดสำรอง นำไปสู่การสะสมของของเหลวในปอด ซึ่งทำให้บุคคลหายใจลำบาก แหล่งที่เชื่อถือได้ชาวอเมริกันประมาณ 6.2 ล้านคนมีภาวะหัวใจล้มเหลว โดยภาวะนี้มีส่วนทำให้เสียชีวิตมากกว่า 379,000 คนในปี 2018 ตามรายงานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค

การศึกษาใหม่ชี้ให้เห็นว่าการออกกำลังกายเป็นประจำอาจลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว นักวิจัยพบว่าผู้ที่ออกกำลังกายปานกลาง 150 ถึง 300 นาทีต่อสัปดาห์มีความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลวลดลง 63% ผู้ที่ออกกำลังกายอย่างหนัก 75 ถึง 150 นาทีต่อสัปดาห์มีความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลวลดลง 66% ทั้งสองนี้มีความสัมพันธ์กับผู้ที่ออกกำลังกายในระดับปานกลางถึงแข็งแรงเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย จำนวนการออกกำลังกายเหล่านี้เป็นขั้นต่ำที่แนะนำ

โดยแนวทางการออกกำลังกายในปี 2018 สำหรับ AmericansTrusted Source John Schuna Jr., PhD, รองศาสตราจารย์ใน College of Public Health and Human Sciences ที่ Oregon State University ใน Corvallis, Ore. กล่าวว่าการวิจัยจำนวนมากเกี่ยวกับผลการป้องกันของการออกกำลังกายต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดได้มุ่งเน้นไปที่ภาวะเฉียบพลันเช่นหัวใจ การโจมตีและโรคหลอดเลือดสมองและการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับสิ่งเหล่านั้น แต่นี่เป็นการตรวจสอบครั้งแรกจริงๆ ที่แสดงให้เห็นว่าการออกกำลังกายที่วัดอย่างเป็นกลางซึ่งสอดคล้องกับการบรรลุแนวทางปฏิบัติในปัจจุบันสำหรับกิจกรรมที่ใช้แอโรบิกจะช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลวได้อย่างมาก” เขากล่าว

 

สนับสนุนโดย.  เครื่องช่วยฟังคนหูหนวก

สุขภาพ

ชีสให้ความฝันที่สดใสจริงหรือ

ชีสให้ความฝันที่สดใส การรับประทานคาเม็มเบิร์ตสีน้ำเงินฉุนหรือแก่ก่อนเข้านอนขึ้นชื่อว่านำไปสู่ความฝันที่แปลกประหลาด หรือแม้แต่ฝันร้าย แต่ของขบเคี้ยวที่ใส่นมจะมีผลจริง ๆ ต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในการนอนหลับของเราหรือไม่ ความสัมพันธ์ของเรากับชีสเป็นเรื่องแปลก มักจัดอยู่ในกลุ่มอาหารโปรดของผู้คน มีเทศกาลทั้งเทศกาลที่อุทิศให้กับชีส ที่ที่มันกินหรือแม้แต่กลิ้งลงเขา การชิมชีสและจับคู่กับไวน์ ชัทนีย์ และบิสกิตได้กลายเป็นศิลปะ เรายังรู้ด้วยว่ามันเต็มไปด้วยไขมันอิ่มตัว และการรับประทานมากเกินไปก็อาจส่งผลเสียต่อเราได้

แต่ตามคำกล่าวอ้างบางข้อ ชีสมีด้านมืดที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่า ซึ่งอาจส่งผลต่อสมองของเราเมื่อเรานอนหลับ ข่าวลือที่ว่ากินชีสตอนดึก ๆ

จะทำให้คุณฝันประหลาดได้ ย้อนหลังไปถึงปี 1964 นักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่าผู้ป่วยหยุดฝันร้ายเมื่อเขาเลิกกินเชดดาร์ชีสหนึ่งหรือสองออนซ์ทุกเย็น ไม่นานมานี้ คณะกรรมการชีสแห่งอังกฤษที่เลิกใช้ไปแล้ว ซึ่งให้ทุนสนับสนุนการศึกษาในปี 2548 และสรุปว่าการกินบลูชีสทำให้เกิดความฝันที่สดใส ในขณะที่เชดดาร์ทำให้ผู้คนฝันถึงคนดัง การศึกษาไม่ได้มีความแข็งแกร่งทางวิทยาศาสตร์หรือตีพิมพ์ในวารสารที่ผ่านการตรวจสอบโดยเพื่อน แต่การค้นพบนี้ช่วยขยายเวลาความเชื่อที่ว่าชีสสามารถส่งผลต่อเนื้อหาในฝันของเรา ไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าชีสทำให้เกิดฝันร้าย หรือที่จริงแล้ว

หลายๆ อย่างที่พิสูจน์ทฤษฎีนี้ผิดเช่นกัน Tore Nielson ศาสตราจารย์ด้านจิตเวชศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยมอนทรีออลและผู้อำนวยการห้องปฏิบัติการในฝันและฝันร้ายกล่าวว่าเพียงแค่ความแพร่หลายของข่าวลือนี้เท่านั้นก็เพียงพอที่จะทำให้มันเป็นจริง

“การรู้ว่าชีสส่งผลต่อฝันร้ายก็อาจกระตุ้นให้เกิดความฝันได้ เพราะคนเรามักเป็นสิ่งที่ชี้นำได้” เขากล่าว

คำอธิบายทางอ้อมอีกประการหนึ่งคือปริมาณแลคโตสสูงของชีส จากการศึกษาที่ Nielson ดำเนินการในปี 2015 พบว่ามีเพียง 17% ของคนเท่านั้นที่กล่าวว่าความฝันของพวกเขาดูเหมือนจะได้รับอิทธิพลจากสิ่งที่พวกเขากิน แต่เขากล่าวว่าผลิตภัณฑ์จากนมเป็นอาหารที่รายงานบ่อยที่สุดว่าก่อให้เกิดฝันร้าย

“เป็นไปได้อย่างยิ่งที่ผลกระทบเหล่านี้เกิดจากคนที่แพ้แลคโตส” เขากล่าว “เป็นไปได้ว่าผลกระทบทางอ้อมในแลคโตสนั้นทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น แก๊ส ท้องอืดท้องเฟ้อ และท้องร่วง และส่งผลต่อความฝัน เนื่องจากความฝันมักใช้แหล่งร่างกายเช่นนี้ และหากคุณมีอาการแพ้บางประเภท คุณก็มักจะกินอาหารเหล่านั้นเป็นบางครั้ง ” อย่างไรก็ตาม ไม่มีหลักฐานสนับสนุนทฤษฎีที่ว่าผลิตภัณฑ์นมมีอิทธิพลต่อความฝันในประชากรทั่วไป นอกจากนี้ยังขัดแย้งกับการค้นพบที่ว่านมวัวซึ่งมีแลคโตสสูงเช่นกัน มีชื่อเสียงที่ตรงกันข้ามกับการช่วยให้เรานอนหลับ

การทบทวนการศึกษา 14 เรื่องล่าสุดและการทดลองควบคุมแบบสุ่มที่ดำเนินการระหว่างปี 1974 ถึง 2019 ชี้ให้เห็นว่านมและผลิตภัณฑ์จากนมที่ควบคุมอาหารอย่างสมดุลสามารถปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับได้ ชื่อเสียงของชีสในการกระตุ้นให้ฝันป่าสามารถอธิบายได้ อย่างน้อยที่สุดในยุโรป ก็สามารถอธิบายได้ด้วยประเพณีการกินชีสกับอาหารเย็นมื้อสุดท้าย การกินอาหารตอนดึกอาจส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับของเรา และบางทีชีสก็มักจะโทษตัวเอง

 

สนับสนุนโดย.    เครื่องช่วยฟังขนาดเล็ก

สุขภาพ

ทำงานเหนื่อยแล้ว ยังป่วยออฟฟิศซินโดรม จัดโต๊ะทำงานให้ถูก ช่วยได้

การนั่งดำเนินการใด ๆ ก็ตามนาน ๆ อาจส่งผลให้เราเริ่มมีลักษณะอาการปวดตามร่างกาย ทราบหรือเปล่าว่าอาการกลุ่มนี้ไม่เฉพาะแต่จะส่งผลให้เกิด โรคออฟฟิศซินโดรม เพียงแค่นั้นแต่ว่าบางทีอาจอันตรายจนถึงเกิดการที่ป่วยเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เราจะมาสอนถึงการจัดโต๊ะทำงานให้ถูกตามหลักทฤษฎี เพื่อป้องกันตัวเองจากโรคออฟฟิศซินโดรม

การยศาสตร์ หรือเรียกอีกแบบว่า Ergonomics เป็นแนวความคิดที่แสดงถึงความเชื่อมโยงระหว่างคนกับเครื่องไม้เครื่องมือแล้วก็สภาพแวดล้อม เป็นศาสตร์ซึ่งสามารถประยุกต์ให้เหมาะสมกับแต่ละคน เพื่อเลี่ยงอาการบาดเจ็บรวมทั้งช่วยทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นสำหรับการปฏิบัติงาน

เมื่อเอ่ยถึงพื้นที่ดำเนินงาน พวกเราทุกคนมักมีสไตล์การจัดวางข้าวของบนโต๊ะที่ไม่เหมือนกัน บางบุคคลบางทีอาจถูกใจความธรรมดา หรือบางบุคคลถนัดวางของจับรวมเป็นกลุ่มเป็นก้อน โต๊ะทำงานก็เปรียบเหมือนบ้านของคุณ ด้วยเหตุนี้ ข้าวของที่ใช้อยู่เสมอกรณีที่จำเป็นจะต้องอยู่ในจุดซึ่งสามารถถือจับง่าย แม้กระนั้นข้าวของที่ใช้ไม่บ่อยนักก็จำเป็นที่จะต้องสามารถหาได้ง่ายเช่นเดียวกัน

ออฟฟิศซินโดรม ผู้ชำนาญได้ให้คำปรึกษาว่า ควรจะจัดโต๊ะทำงาน โดยการจัดตามความจำเป็นของข้าวของต่าง ๆ ตามสิ่งที่จำเป็นสำหรับในการใช้งานในชั่วโมงทำงานของคุณ นอกเหนือจากที่จะสบายแล้ว ยังทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นในการทำงาน รวมทั้งช่วยทำให้มีสมาธิสนใจกับงานที่ทำ รวมทั้งลดอาการบาดเจ็บของร่างกายได้อีกด้วย

โซนแรก หมายถึง โซนที่สามารถหยิบง่ายจับต้องง่ายแค่เพียงกางแขนออกไป เวลาที่ศอกยังวางอยู่สบาย ๆ ข้างตัว พื้นที่นี้ชอบมีไว้สำหรับวางคีย์บอร์ดรวมทั้งเมาส์ ไม่ชี้แนะให้วางสิ่งอื่นไว้รอบ ๆ โซนนี้ นอกจากว่าคุณจะใช้มันในจำนวนที่มากพอ ๆ กับการใช้เมาส์และก็คีย์บอร์ด

โซนลำดับที่สอง เป็นโซนที่จะต้องมีการกางแขนออกว้าง โดยไม่จำเป็นจะต้องเอนตัวหรือแอ่นเอว เนื่องจากว่าการที่จำเป็นต้องเอนตัว เป็นประจำอาจก่อให้เกินลักษณะของการปวดกล้ามแล้วก็เป็นโรคออฟฟิศซินโดรมท้ายที่สุด รอบ ๆ นี้จะเป็นหลักที่ที่สมควรสำหรับข้าวของที่ควรต้องใช้บ่อยครั้ง เป็นต้นว่า หนังสือ ไดอารี่ หรืออุปกรณ์การเรียนต่าง ๆ

โซนลำดับที่สาม ควรเข้าถึงได้โดยการยืดแขน เอียงตัวหรือแอ่นเอว แล้วก็ต่อให้เป็นโซนซึ่งสามารถจับของได้โดยไม่ต้องลุกขึ้นยืน แม้กระนั้นนี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะทำบ่อยเป็นประจำ โซนนี้สมควรสำหรับเก็บข้าวของที่ใช้เป็นบางโอกาส ถ้าพื้นที่ดำเนินงานขยายไปเกินโซนนี้ พื้นที่นี้ควรที่จะใช้สำหรับจัดเก็บข้าวของเพียงแค่นั้น

นอกเหนือจากนี้ การใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมงต่อวันนั่งดำเนินงานที่โต๊ะ ย่อมกำเนิดความเจ็บไข้ตัว แต่ว่าพวกเราสามารถปรับปรุงแก้ไขประเด็นนี้ได้ โดยการปรับระดับความสูงของเก้าอี้ให้สมควร แต่ว่าแม้กระทั่งพวกเราจัดโต๊ะดีเพียงใด ในขณะที่นั่งอยู่นั้นก็ควรจะยืดเส้นยืดสายบ้าง ควรจะหมั่นลุกเดินเสมอ ๆ อย่างต่ำทุก 1 ชั่วโมง  เพื่อใช้งานร่างกาย

 

สนับสนุนโดย.    เครื่องช่วยฟังผู้สูงอายุ