สุขภาพ

วิ่งอย่างไรให้ไม่ทำร้ายสุขภาพ

สมัยปัจจุบันนี้ ยอมรับได้เลยว่ากีฬาวิ่งนั้นได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง เพราะกีฬาวิ่งถือเป็นการออกกำลังกายที่สามารถทำได้ง่ายๆ แถมไม่มีอุปกรณ์อะไรที่มันยุ่งยากมากอีกด้วย มีเพียงแค่รองเท้าหนึ่งคู่และใจที่พร้อมจะทำก็สามารถทำได้แล้ว การวิ่งในสมัยนี้ หลายคนอาจคิดว่าถ้าหากเราวิ่งมาก ๆ วิ่งเป็นประจำ จะยิ่งช่วยเสริมสร้างสุขภาพร่างกายของเราให้แข็งแรงได้มากขึ้น

แต่ถึงแม้ว่าการวิ่งจะช่วยทำให้เรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงได้ แต่รู้หรือไม่ว่า การวิ่งก็สามารภทำร้ายสุขภาพร่างกายของเราได้ง่ายเช่นกัน ยิ่งถ้าเราไปหักโหมกับการวิ่งมากเกินไป ก็จะยิ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย เพราะการวิ่งที่ดี วิ่งเพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงนั้น ควรวิ่งอย่างสม่ำเสมอ วิ่งแต่พอดี จึงจะสามารถช่วยให้เรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงได้

วิ่งอย่างไรให้ไม่ทำร้ายสุขภาพ ดังนั้น วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับการวิ่งให้มากขึ้น วิ่งอย่างไรไม่ให้ทำร้ายสุขภาพ ไปดูกันเลย

ระยะเวลาการวิ่งที่เหมาะสม ก่อนที่เราจะออกไปวิ่งเพื่อเสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงได้นั้น สิ่งสำคัญเลยก็คือ การดูระยะเวลาที่เหมาะสมในการวิ่ง ให้เข้ากับสภาพร่างกายของตนเอง ควรที่จะเริ่มต้นด้วยการค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไปจะดีกว่า อย่าไปรีบร้อยจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้การวิ่งนั้นไม่ได้ประสิทธิภาพ ยิ่งถ้าเราไปรีบร้อน ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่ารีบวิ่งรีบมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงขอบอกเลยว่าคุณคิดผิด เพราะการรีบร้อยในการวิ่งตั้งแต่แรก ๆ จะส่งผลให้การวิ่งไม่ได้คุณภาพ แถมยังอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย หรืออาจทำร้ายสุขภาพร่างกายได้นั่นเอง ดังนั้น ก่อนที่จะเริ่มดูแลสุขภาพร่างกายด้วยการวิ่ง ควรเริ่มต้นด้วยการค่อน ๆ เป็นค่อย ๆ ไปจะดีกว่า เพื่อให้การวิ่งนั้นดีต่อสุขภาพร่างกายของเรา 

กำหนดเป้าหมายในการวิ่ง การวิ่งในสมัยปัจจุบันนี้ หลายคนอาจจะคิดว่า แค่เราวิ่งก็สามารถมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงได้ ซึ่งนั่นกก็เป็นเรื่องจริง แต่การที่เราวิ่งอย่างไม่มีเป้าหมาย อาจทำให้สุขภาพร่างกายของเราแย่ลงแบบไม่รู้ตัวก็ได้ ดังนั้น การที่เราเลือกกำหนอดเป้าหมายในการวิ่งขึ้นมาอย่างชัดเจน จะช่วยให้การวิ่งของเรานั้นเต็มไปด้วยประสิทธิภาพที่ดี และช่วยให้สุขภาพร่างกายของเราแข็งแร็งมากยิ่งขึ้นได้อีกด้วย 

เลือกเวลาวิ่งให้เหมาะสม ไม่ใช่ว่าเราจะวิ่งในเวลาไหนก็ได้ เพราะการวิ่งที่ดี วิ่งเพื่อสุขภาพร่างกายที่ดี ก็จะมีช่วงระยะเวลาที่ดีเช่นกัน ดังนั้น สำหรับใครที่กำลังจะเข้าสู่วงการวิ่ง ก็ควรเลือกเวลาการวิ่งที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของตนเอง เพื่อไม่ให้การวิ่งส่งผลเสีย และทำร้ายสุขภาพร่างกายของตนเองมากเกินไป 

 

ได้รับการสนับสนุนเนื้อหาโดย    เครื่องช่วยฟัง

สุขภาพ

วิ่งแล้วทำไมยังมีพุง

วิ่งแล้วทำไมยังมีพุง ปัจจุบันนี้อย่างที่เราทราบกันเป็นอย่างดีว่า กีฬาทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นทางด้านไหนก็ตาม ก็สามารถช่วยเสริมสร้างสุขภาพร่างกายของเราให้แข็งแรงได้ แถมยังมีประโยชน์ดี ๆ ต่อร่างกายของเราได้เป็นอย่างมากอีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าหนึ่งในกีฬา หรือการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

นั้นก็คือ การวิ่ง ซึ่งถือว่าเป็นกิจกรรมยามว่างที่มีประโยชน์แก่ร่างกายของเราเป็นอย่างมาก แถมยังช่วยในการเสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงได้เป็นอย่างดี ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันนี้มีคนจำนวนไม่น้อยที่หันมากวิ่งกันมากขึ้น เพื่อสุขภาพร่างกายที่ดี และเพื่อช่วยในการลดน้ำหนักนั่นเอง

แต่ทว่าก็ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ยังคงเป็นกังวลเรื่องของการวิ่งเพื่อลดน้ำหนัก เพราะไม่ว่าจะวิ่งแค่ไหนน้ำหนักก็ยังคงอยู่ที่เดิม แถมพุงก็ยังไม่ลดอีกด้วย เป็นเพราะอะไรกันนะ วันนี้เรามีคำตอบค่ะ ซึ่งก็เป็นเหตุผลง่าย ๆ ไปดูกันเลย 

การเลือกทานอาหารผิด แน่นอนว่าการเลือกรับประทานอาหารควบคู่ไปกับการวิ่ง ถือเป็นส่วนหนึ่งที่อาจส่งดีต่อร่างกาย หรืออาจช่วยให้การลดน้ำหนักของเรานั้นเป็นผลดี และมีประสิทธิภาพมากขึ้นก็ได้ ดังนั้น เหตุผลที่หลาย ๆ คนมีความสงสัยกันว่าทำไมเราวิ่งเป็นประจำแล้วยังมีพุง ก็อาจจะเป็นเพราะว่าคุณเลือกรับประทานอาหารผิดประเภทนั่นเอง เพราะนี่ถือเป็นสาเหตุใหญ่ที่ส่งผลให้เรามีพุง ฉะนั้น  สำหรับใครที่อยากวิ่งเพื่อลดน้ำหนักให้ได้ประสิทธิภาพ ก็ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ควบคู่ไปด้วย 

เครียดมากเกินไป ความเครียดก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่อาจทำให้การลดน้ำหนักของเรานั้นไม่เป็นผล ยิ่งถ้าเรามีความเครียดมาก ๆ ก็จะยิ่งทำให้ไขมันไปพักอยู่ที่ช่อท้องมากขึ้น ทำให้เรามีพุง และไม่ว่าจะออกกำลังกายมากแค่ไหน หรือวิ่งมากแค่ไหนก็ตาม ก็ไม่สามารถลดพุงนั่นเอง ดังนั้น หากต้องการลดพุงจริง ๆ ก็ไม่ควรที่จะไปเครียด ยิ่งถ้าเป็นการวิ่งเราควรสนุกไปกับมันให้มาก ๆ จะยิ่งช่วยให้การลดพุงของเรานั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

ออกกำลังกายผิดประเภท สำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องของการมีพุง และคิดว่าการวิ่งนั้นอาจเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถช่วยในการลดพุงได้ ซึ่งขอบอกก่อนเลยว่าร่างกายของคนเราแต่ละคนนั้นค่อนข้างที่จะมีความแตกต่างกันออกไป บางคนวิ่งแค่ไม่กี่วันก็สามารถช่วยลดพุงได้แล้ว แต่กลับอีกคนที่ไม่ว่าจะวิ่งแค่ไหนก็ไม่สามารถลดพุงลงได้ ดังนั้น อาจจะเป็นไปได้ว่าคุณเลือกการออกกำลังกายผิดวิธี เพราะการวิ่งอาจจะไม่ใช่ประเภทที่สามารถช่วยลดพุงสำหรับคุณได้ ฉะนั้น ลองปรับเปลี่ยนการออกกำลังกายไม่แน่อาจช่วยลดพุงของคุณได้

 

ได้รับการสนับสนุนเนื้อหาโดย    เครื่องช่วยฟังราคาถูก

สุขภาพ

เคล็ดลับการทานมื้อเย็นอย่างไรไม่ให้อ้วน

อาหารมื้อเย็น ถือเป็นมื้อที่มีความสำคัญสำหรับหลาย ๆ คนเป็นอย่างมาก เพราะในแต่วันนั้นคนส่วนใหญ่มักที่จะใช้พลังงาน หรือร่างกายไปกับการทำงานเป็นส่วนใหญ่

แต่พอเลิกงายก็คงอยากที่จะรับประทานอาหารที่ชอบ เพื่อที่จะได้เพิ่มพลังงาน และทำให้ตนเองมีความสุข แต่ในขณะเดียวกับนั้นหลาย ๆ คนก็มักที่จะให้ความสำคัญกับการทานมื้อเย็นเป็นอย่างมาก เพราะปกติแล้วสำหรับคนที่อยู่ในช่วงของการลดน้ำหนัก มื้อเย็นถือเป็นมื้อที่อาจทำให้อ้วนได้ง่าย จึงทำให้เวลาที่จะทานมื้อเย็นมักที่จะคิดหนัก และเครียดอยู่เสมอ

ดังนั้น อาหารมื้อเย็นในสมัยปัจจุบันนี้ก็ใช่ว่าจะทำให้เรานั้นอ้วนได้เสมอไป ยิ่งถ้าเราเลือกโภชนาการที่ดี และเหมาะสม ก็จะช่วยให้เรามีสุขภาพร่างกายที่ดี ได้รับประทานอาหารที่ชอบ และไม่ทำให้อ้วนได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่อยู่ในช่วงของการลดน้ำหนัก หรืออยากรักษาหุ่นสวย ๆ ไ

แต่ก็จำเป็นที่จะต้องทานมื้อเย็นอยู่เป็นประจำ  เคล็ดลับการทานมื้อเย็น วันนี้เราก็จะมาแนะนำ อาหารที่เราควรเลือกทานมื้อเย็น รับรองได้เลยว่านอกจากจะดีต่อสุขภาพร่างกายของเราแล้ว ยังไม่ทำให้อ้วนได้อีกด้วย จะมีอาหารประเภทไหนกันบ้างไปดูกันเลย  

1.เลือกทานสลักผักเป็นหลัก

เนื่องจากคนส่วนใหญ่จำเป็นที่จะต้องรับประทานอาหารมื้อเย็น เพื่อที่จะได้เพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย แต่ก็กลัวว่าจะอ้วนได้ง่าย ทางที่ดีเราควรที่จะเน้นไปที่การทานสลัดผัก เพราะอาหารประเภทนี้นอกจากจะเหมาะสมสำหรับคนที่อยู่ในช่วงของการลดน้ำหนักแล้ว ยังทำใหร่างกายของเราได้รับสารอาหารที่ดีอีกด้วย ยิ่งถ้าเราทานอาหารมื้อนี้เป็นประจำ รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องมีหุ่นที่สวยได้อย่างแน่นอน 

2.หลีกเลี่ยงอาหารที่มีแคลอรีสูง

เนื่องจากอาหารที่มีแคลเซียมสูงนั้น เป็นหนึ่งในต้นเหตุที่ทำให้เรานั้นอ้วนได้ ดังนั้น ทางที่ดี มื้อเย็นของเราควรที่จะเป็นอาหารที่มีแคลอรีต่ำมาก ๆ เพื่อที่จะได้ไม่ทำให้ไขมันเกิดการสะสมภายในร่างกาย อาหารที่เราควรหลีกเลี่ยงนั้นก็ควรจะเป็นอาหารทอด เนื้อสัตว์ติดมัน หรือแม้แต่พวกขนมต่าง ๆ ที่มีความหวานมาก ๆ ก็ตาม เพราะอาหารต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนแต่ทำให้เรานั้นอ้วนได้ง่าย 

3.ควรดื่มน้ำก่อนมื้ออาหาร

สำหรับใครที่อยากทานมื้อดึกไม่ให้อ้วน ทางที่ดีควรที่จะดื่มน้ำก่อนการทานมื้ออาหารทุกครั้ง เพื่อให้เรานั้นไม่รับประทานอาหารเยอะจนเกินไป เพราะการที่เราดื่มน้ำก่อนมื้ออาหารจะช่วยลดปริมาณการทานอาหารลงได้ อีกทั้งยังทำให้เราอิ่มท้อง ไม่ทานมื้อเย็นเยอะได้อีกด้วย 

 

ได้รับการสนับสนุนจาก    เครื่องช่วยฟัง

สุขภาพ

3 ปัญหาสุขภาพของวัยทำงาน

วัยทำงาน ถือเป็นวัยที่ต้องใช้ชีวิตกันอย่างเร่งรีบ เพราะจะต้องตื่นแต่เช้า เพื่อที่จะได้เดินทางไปทำงานให้ทันเวลา ซึ่งใครที่อยู่ในช่วงวัยนี้ ขอบอกเลยว่า เป็นช่วงวัยที่ถือว่าลำบาก และมีการใช้ชีวิตที่หนักมาก ๆ เลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากการทำงานที่เราจะต้องปวดหัว หรือเครียดอยู่ตลอดเวลาแล้ว การใช้ชีวิตในประจำก็ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้หลาย ๆ คนรู้สึกเครียดได้

ซึ่งรู้หรือไม่ว่า สำหรับวัยทำงานแล้ว นอกจากหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบในแต่ละวันแล้ว การดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะในแต่ละวันนั้นการใช้ชีวิตเต็มที่ไปกับการทำงาน จนทำให้สุขภาพร่างกายของเราโดนทำร้ายแบบไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นการทำร้ายสายตา

ปัญหาสุขภาพของวัยทำงาน ด้วยการนั่งจ้องหน้าจอนานเกินไป รวมไปถึงการใช้งานสมองหนักจนเกินไปอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเราจะทำงานหนักมากแค่ไหนก็ตาม หากมีเวลาเราก็ควรที่จะหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้มาก ๆ เพราะโรคภัยไข้เจ็บในสมัยปัจจุบันนี้ก็อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

ฉะนั้น วันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูกันว่า ปัญหาสุขภาพที่วัยทำงานจะต้องเจอกันอยู่บ่อย ๆ นั้นจะมีอะไรกันบ้าง ไปดูกันเลย

โรคกระเพาะอาหาร เนื่องจากวัยทำงานส่วนใหญ่แล้วมักที่จะมีพฤติกรรมการเลือกรับประทานอาหารไม่เหมาะส รวมไปถึงการรับประทานอาหารไม่ตรงเวลาอีกด้วย เพราะในแต่ละวันนี้ต้องใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ อีกทั้งยังมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบมากมาย ซึ่งพฤติกรรมนี้หากเราทำบ่อย ๆ ก็จะยิ่งทำให้ร่างกายของเราได้รับความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระเพาะอาหารได้ง่ายนั่นเอง เพราะจะทำให้ร่างกายเกิดการหลั่งน้ำย่อยออกมามากกว่าปกตินั่นเอง 

โรคไมเกรน เนื่องด้วยการทำงานของคนส่วนใหญ่จะค่อนข้างแตกต่างกันออกไป ทำให้บางคนมีอาการเครียดกันอยู่บ่อย ๆ ซึ่งรู้หรือไม่ว่า การที่เราเครียดบ่อย ๆ หรือมีความเครียดที่สะสมมากเกินไป จะยิ่งทำให้เรามีอาการปวดหัวได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการปวดหัวข้างเดียว ซึ่งอาการนี้ถือเป็นอาการที่เกิดขึ้นบ่อยจนทำให้หลาย ๆ คนนั้นเกิดความเคยชินไปแล้ว แต่รู้หรือไม่ว่ายิ่งเรามีอาการปวดหัวบ่อย ๆ และรุนแรงมากขึ้น อาจเป็นไปได้ว่าเรากำลังเสี่ยงต่อการเป็นโรคไม่เกรนนั่นเอง 

โรคซึมเศร้า เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในโรคที่มีควาน่ากลัวเป็นอย่างมาก แต่ในสมัยนี้เราก็ไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงโรคนี้ไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยทำงาน ที่มีความเครียดสะสมเยอะ เพราะโรคนี้เป็นโรคที่เกิดขึ้นได้จากการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ จิตใจ และอาการวิตกกังวล ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ง่ายสำหรับคนที่ทำงานหนักเกินไป หรือคนที่มีความเครียดสะสมนั่นเอง ดังนั้น ขอบอกเลยว่าโรคนี้ถือเป็นโรคที่เราควรระมัดระวังให้ดี เพราะถือเป็นโรคที่อาจทำลายชีวิตของเราได้

 

สนับสนุนโดย  เครื่องช่วยฟังราคาเท่าไหร่

สุขภาพ

ปากกาลดน้ำหนัก สำหรับคนที่ไม่อยากอ้วน

ในวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ ปากกาลดน้ำหนักกัน โดยปากกาลดน้ำหนักนี้มันก็คือตัวที่จะช่วย ในการควบคุมอาหารให้แก่คุณ และจะเป็นการช่วยในการปรับพฤติกรรมสำหรับการกินของคุณ โดยจะเป็นตัวช่วยให้กับคนที่ค่อนข้างไมชอบรูปร่างของตนเอง หรือกลุ่มคนที่มีน้ำหนักมากเกินความจำเป็น

 

สำหรับคนที่มีน้ำหนักเกินนั้นสามารถนำปากกาลดน้ำหนักเหล่านี้ไปใช้ได้ เพราะถูกคิดค้นมาจาก ดร.ชาวเดนมาร์ก และจะเห็นได้ว่ามีคนให้คนสนใจมากขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่เพียงแค่ประเทศไทยเท่านั้น โดยนิยมมาก่อนจากประเทศเกาหลีนั้นเอง

สำหรับปากกาลดน้ำหนักนี้จะเข้ามาช่วยในการคุมอาหาร ให้กับผู้ใช้ ซึ่งหากคุณสนใจเราขอบอกเลยว่ามันใช้ได้ผลดีเอามากๆ เลยแหละ โดยหลักการทำงานของปากกานี้ หลักที่สำคัญของมันจะเป็นการช่วย ลดความต้องการของอาหาร ซึ่งจะส่งผลทำให้ตัวของท่านนั้นทานอาหารได้ลดลง และยังช่วยในเรื่องของการเผาผลาญไขมัน นอกจากนั้นยังส่งผลให้คุณขับถ่ายได้ดีขึ้นอีกด้วย 

โดยตัวยาหรือปากกาลดน้ำหนักนี้ไม่มีสารที่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ และก็ยังไม่มีผลข้างเคียง ใดๆถ้าหากว่านำไปใช้อีกด้วย หลังจากที่คุณใช้แล้วไม่มีอาการเหนื่อย ใจสั่น หรือว่าอ่อนเพลีย และนอนไม่หลับอย่างแน่นอน แต่ทั้งงนี้ทั้งนั้นคุณก็ไม่ควรที่จะไปหาซื้อมาใช้เอาเอง เพราะว่าอาจจะใช้ในวิธีที่ผิด ดังนั้นควรที่จะปรึกษาแพทย์เสียก่อน ที่จะนำไปใช้นะคะ

 

ปากกาลดน้ำหนัก สำหรับการลดการปรับปริมาณการฉีดนั้น ควรที่จะเป็นการใช้ตามแพทย์สั่ง เพราะแพทย์จะลดหรือเพิ่มตามคนไข้นั้นๆ จึงจะเหมาะสม

วิธีใช้งานปากกาลดน้ำหนัก มีดังนี้ 

1.ควรที่จะทำการเช็คปากกานั้นให้มีรูปที่มีลักษณะเดียวกันกับสินค้า 

2.ควรที่จะเช็ดแอลกอฮอล์ก่อนและหลังในการใช้ทุกๆครั้ง และควรเปลี่ยนเข็มฉีดบ่อยๆ

3.ควรทำการทดสอบในการไหลของยาที่อยู่ในปากกาให้เรียบร้อย เพื่อจะไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด

4.ควรที่จะปรับปปริมาณของตัวก่อนท ก่อนที่คุณจะเริ่มฉีดทุกครั้ง

5.ควรที่จะฉีดรอบสะดื้อ 1 ครั้ง ซีงประมาณครั้งละ หกวินาที

6.ควรที่จะทำการถอดเอาเข็มออกทุกครั้งจากนั้นให้ปิดฝาใหสนิทเพื่อป้องกันเชื้อโรค

 ปริมาณของยาที่คนเริ่มใช้ควรจะอยู่ที่ สัปดาห์แรกที่ทำการเริ่มใช้ควรอยู่ที่ 0.6 mg จากนั้นให้เพิ่มปริมาณขึ้นในสัปดาห์ที่สอง โดยเพิ่มเป็น 1.2 mg และในสัปดาห์ที่สามของเดือนควรที่จะเพิ่มปริมาณไปที่ 1.8 mg และสัปดาห์สุดท้ายของเดือนนั่นก็คือสัปดาห์ที่สี่ควรจะเพิ่มไปที่ 2.4 mg โดยปากกา 1 ด้ามนั้นสามารถที่จะใช้ได้ 17-30 วันกันเลยทีเดียว

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังที่เสียงรบกวนน้อยที่สุด

สุขภาพ

ความเครียดในเด็กสัญญาณเตือนที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม

อย่างที่เราทราบกันดีว่าความเครียดเป็นหนึ่งในปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย ซึ่งในสมัยปัจจุบันนี้คนส่วนใหญ่นั้นมักที่จะพบเจอกับความเครียดกันอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นจากการทำงานรวมไปถึงการเรียนอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กๆ ซึ่งหากมีความเครียดนั่นจะยิ่งส่งผลกระทบต่อร่างกายรวมไปถึงอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตอีกด้วย

อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในปัญหาที่ทำให้พ่อแม่ส่วนใหญ่นั้นหนักใจกันเป็นอย่างมาก เพราะความเครียดในเด็กนั้นถือเป็นหนึ่งในอาการที่มีความอันตรายเป็นอย่างมาก ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่าผู้ปกครองส่วนใหญ่มักที่จะมองหาวิธีการบรรเทาความเครียด หรือทำให้ลูกของตนเอง นั้นรู้สึกผ่อนคลายได้มากที่สุด

ความเครียดในเด็ก ซึ่งรู้หรือไม่ว่าในสมัยปัจจุบันนี้ การลดความเครียดสามารถทำได้หลากหลายวิธีที่แตกต่างกันออกไป อยู่ที่ว่าผู้ปกครองจะเลือกใช้วิธีไหนที่มีความเหมาะสมสำหรับเด็กๆ อย่างไรก็ตามอาการนี้เป็นหนึ่งในอาการที่ไม่ว่าใครก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตนเองทั้งนั้น เพราะความเครียดถือเป็นหนึ่งในอาการที่มีความอันตรายโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กๆ

ดังนี้ วันนี้เราจะพาไปดูกันว่าความเครียดในเด็กนั้นจะมีสัญญาณเตือนอะไรกันบ้าง ที่ผู้ปกครองไม่ควรมองข้ามเผยว่าเราจะรู้เท่าทันและป้องกันได้ทันไปดูกันเลย

มีการใช้คำพูดในแง่ลบ สำหรับเด็กที่มีความเครียดสะสมเป็นเวลานานเด็กๆส่วนใหญ่มักที่จะมีความคิดที่เปลี่ยนไป อาจจะเป็นจากการที่คิดบวกอยู่แล้วกลับกลายเป็นว่ามีความคิดที่เป็นลบและใช้คำพูดในแง่ลบ เพราะเนื่องจากความเครียดนั้นเป็นหนึ่งใน ปัญหาที่ส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของเราได้อาจทำให้เรามีอาการสับสน กังวล รำคาญ หรืออาจมีอาการโกรธในเวลาเดียวกัน ซึ่งการที่เด็กๆใช้คำพูดในแง่ลบบ่อยๆ อาจเป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนที่อาจแสดงได้ว่าเด็กๆนั้นมีความเครียด นั่นเอง

มีอารมณ์ที่เปลี่ยนไป แน่นอนว่าความเครียดนั้นอาจส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของเราได้โดยตรง เพราะถึงแม้ว่าเด็กๆส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงมีพัฒนาการที่ไม่หยุดนิ่ง แต่เมื่อไรก็ตามที่เขามีความเครียด พัฒนาการของเขาจะหยุดนิ่งและมีการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปจากเดิมรวมไปถึงอาจทำให้อารมณ์เปลี่ยนไปจากเดิมด้วยเช่นกัน ซึ่งจากเด็กที่อารมณ์ดีอยู่บ่อยๆ ก็อาจทำให้เขามีอารมณ์ที่ โกรธได้ง่าย หงุดหงิด หรือไม่สนใจโลกภายนอก ดังนั้นหากเด็กๆมีอาการดังกล่าวอาจเป็นไปได้ว่าเด็กๆกำลังมีความเครียดที่สะสมนั่นเอง

รู้สึกไม่สบายบ่อย อย่างที่เราทราบกันดีว่าความเครียดเป็นหนึ่งในปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย ซึ่งหากเด็กๆนั้นรู้สึกว่าตนเองไม่ค่อยสบายอยู่บ่อยๆ หรือมักที่จะมีอาการปวดหัว วิงเวียนศีรษะอยู่เป็นประจำ ผู้ปกครองส่วนใหญ่ อาจรู้ได้เลยว่า การดังกล่าวที่เกิดขึ้นกับเด็กๆนั้นอาจเป็นหนึ่งในอาการที่ เป็นสัญญาณเตือนของความเครียด

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังยี่ห้อไหนดี

สุขภาพ

3 สัญญาณเตือนที่กำลังมองว่าคุณไดเอทผิดวิธี

ไม่ว่าใครก็ตามในสมัยปัจจุบันนี้ก็อยากมีรูปร่างที่ดีมีหุ่นที่สวยเป๊ะปังเพื่อเป็นตัวช่วยในการใช้ชีวิต ซึ่งหรือไม่ว่าการลดน้ำหนักในสมัยปัจจุบันนี้

กำลังมองว่าคุณไดเอทผิดวิธี นั้นมีมากมายหลากหลายวิธีซึ่งในแต่ละวิธีก็จะมีประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป โดยส่วนใหญ่แล้วเราจะเห็นได้ว่าวิธีการลดน้ำหนักที่คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจนั่นก็คือการไดเอท หรืออาจจะเรียกง่ายๆว่าการอดอาหารหรือควบคุมอาหารนั่นเอง ซึ่งวิธีนี้หลายคนมองว่าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและทำให้การลดน้ำหนักนั้นได้ผลดี

แต่ในความเป็นจริงแล้ว วิธีการที่เราควบคุมอาหารอาจเป็นหนึ่งในวิธีที่เป็นการทำลายสุขภาพเพราะอาจทำให้ร่างกายของเราได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ จนอาจส่งผลกระทบต่างๆต่อร่างกายได้ ซึ่งปัญหานี้ถือเป็นหนึ่งในปัญหาที่ทำเอาหลายๆคนหนักใจกันเป็นอย่างมากเพราะไม่รู้ว่า จะใช้วิธีการไดเอทในรูปแบบไหน

เพื่อให้การลดน้ำหนักนั้นมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่าการ จะมีสัญญาณเตือนไหนบ้างที่กำลังบ่งบอกได้ว่าเรากำลังไดเอ็ดผิดวิธีและอาจทำให้การลดน้ำหนักนั้นไม่เป็นประสิทธิภาพ จนอาจส่งผลกระทบต่อร่างกาย ไปดูกันเลย

ออกกำลังไม่ถึงเป้าหมาย สำหรับคนส่วนใหญ่แล้วการออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะการออกกำลังกายนอกจากจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกายได้แล้วยังมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักได้อีกด้วย ก็ถือเป็นหนึ่งในวิธีที่จะทำให้การลดน้ำหนักนั้นมีประสิทธิภาพ

แต่รู้หรือไม่ว่า คนส่วนใหญ่ที่หันมาออกกำลังกายมักที่จะออกกำลังกายแบบไม่ถึงเป้าหมายซึ่งก็ถือเป็นวิธีที่ผิด  เครื่องช่วยฟังผู้สูงอายุ    ยิ่งจะทำให้การลดน้ำหนักนั้นไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งการที่เราออกกำลังกายไม่ถึงเป้าหมายนั้นอาจเป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนที่อาจบ่งบอกได้ว่าเรากำลังไดเอทแบบผิดวิธี

รู้สึกหิวตลอด หลายคนมองว่าการไดเอทนั้นเป็นการที่เราจะต้องอดอาหาร แต่รู้หรือไม่ว่า การไดเอทนั้นไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องอดอาหารเสมอไป แต่เป็นการที่เราจะต้องควบคุมปริมาณของการรับประทานอาหารในแต่ละมื้อให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เรารู้สึกว่าร่างกายของตนเองนั้นอยู่ในช่วงของการไดเอทและรู้สึกหิวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนที่อาจบ่งบอกได้ว่าระบบเผาผลาญกำลังหยุดทำงาน และอาจทำให้ร่างกายของเรานั้นเสี่ยงต่อการมีน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้นนั่นเอง

มีอาการเหนื่อยล้าตลอดเวลา สำหรับใครที่กำลังอยู่ในช่วงของการไดเอทหรือการลดน้ำหนักหากมีความรู้สึกว่ามีอาการเหนื่อยล้าและรู้สึกอยากงีบอยู่ตลอดเวลา ให้คำนึงถึงเลยว่าร่างกายของเรานั้นอาจได้รับสารอาหารน้อยจนเกินไป หรืออาจจะเป็นการทานอาหารไม่ถูกต้องซึ่งก็เป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนที่อาจบ่งบอกได้ว่าเราไดเอทผิดวิธี จนส่งผลกระทบต่อร่างกายนั่นเอง

สุขภาพ

3 อาหารช่วยลดไขมันในเลือด

การมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง เป็นสิ่งที่ดีที่หลาย ๆ คนนั้นมีความต้องการกันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีสุขภาพร่างกาย โดยที่ไม่เสี่ยงต่อการเป็นโรคร้าย ซึ่งปัจจุบันนี้การมีสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรงนั้น สามารถทำได้ด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์

อาหารช่วยลดไขมันในเลือด รวมไปถึงการออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอร่วมด้วย เพราะโรคภัยไข้เจ็บสมัยปัจจุบันนี้ไม่เข้าใครออกใคร

ซึ่งสามารถเกิดขึ้นให้เราเห็นได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด ซึ่งเป็นโรคที่ถือว่าเกิดขึ้นโดยที่เราเองก็อาจไม่รู้ตัว จนส่งให้โรคนั้นมีอากาที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่อยากมีสุขภาพร่างกายทีแข็งแรง และอยู่อย่างไม่มีโรค โดยเฉพาะโรคไขมันในเลือด วันนี้เราก็จะมาแนะนำอาหารที่มีส่วนช่วยในการลดการสะสมของไขมันในเลือด รับรองได้เลยว่าหากทานเป็นประจำจะยิ่งลดความเสี่ยงได้อย่างแน่นอน จะมีอาหารประเภทไหนกันบ้างไปดูกันเลย 

ถั่วเหลือง รู้หรือไม่ว่าถั่วเหลืองนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายของเรามากขนาดไหน ซึ่งสรรพคุณของถั่วเหลืองนั้นสามารถช่วยลดการอุดตันของไขมันได้ โดยเฉพาะไขมันในเส้นเลือด เนื่องจากในถั่วเหลืองจะมีกรดไขมันอิ่มตัว ซึ่งสามารถช่วยลดคอเลาเตอรอลได้เป็นอย่างดี ดังนั้น สำหรับใครที่อยากมีสุขภาพร่างกายที่ดี อยากบำรุงเลือด หรือช่วยลดการอุดตันของไขมัน การทานถั่วเหลืองเป็นประจำช่วยคุณได้อย่างแน่นอน ทั้งยังเป็นอาหารที่สามารถหาทานกันได้ง่ายอีกด้วย 

ลูกเดือย หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อกันอยู่แล้ว ในส่วนของลูกเดือยเรียกได้ว่ามีสรรพคุณที่สามารถช่วยในการเผาผลาญได้เป็นอย่างดี ทั้งยังมีส่วนช่วยในการลดระดับน้ำตาลในเลือดได้เป็นอย่างดีอีกด้วย และที่สำคัญยังสามารถช่วยลดอาการบวมน้ำได้เป็นอย่างดีอีกด้วย รับรองได้เลยว่าหากทานเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ จะยิ่งดีต่อสุขภาพร่างกายอย่างแน่นอน แถมยังมีแคลอรีที่ต่ำมาก ๆ อีกด้วย 

แครอท รู้หรือไม่ว่าสรรพคุณของแครอทนั้น นอกจากจะดีต่อสุขภาพร่างกายของเราแล้วนั้น ยังมีส่วนช่วยในการต้านเซลล์มะเร็ง ช่วยลดคอเสเตอรอลในร่างกายได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญยังสามารถช่วยเพิ่ประสิทธิภาพของระบบไหลเวียนเลือดในร่างกายได้อีกด้วย เนื่องจากว่าในแครอทนั้นจะอุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุ จึงมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย รับรองได้เลยว่ายิ่งทานบ่อย ๆ ยิ่งต่อต่อระบบการไหลเวียนเลือด และดีต่อสุขภาพร่างกายอีกด้วย

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟัง ดิจิตอล

สุขภาพ

ผลที่เกิดจากเหล้าหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ส่งผลต่อร่างกาย

    ผลที่เกิดจากเหล้าหรือเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ได้เป็นปัญหาที่รุนแรง แล้วก็สามารถพบเจอได้ทั่วในหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทยด้วยนั้นเป็นผลของการดื่มเหล้าหรือการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมที่เป็นแอลกอฮอล์ผสมอยู่ไม่ว่าจะเป็นเหล้านอกอย่างวิสกี้ คอกเทล เบียร์ต่างๆไม่ว่าจะเป็นเบียร์สดหรือเบียร์อื่นๆหรือเหล้าองุ่น

 

คนที่ดื่มในจำนวนไม่มากมายแม้กระนั้นการดื่มอย่างเป็นประจำจะมีการทำให้เรามีคอจะแข็งมากขึ้น หรือทำให้เราสามารถที่จะทำการดื่มได้เยอะมากขึ้น ซึ่งในจำนวนการดื่มที่มากขึ้นตลอด ถึงแม้ว่าคนๆนั้นจะไม่เคยเมาเลยก็ตามทียิ่งปริมาณที่มีการเพิ่มขึ้นผลปรากฏว่า

เหล้าแล้วก็แอลกอฮอล์ทุกประเภทส่งผลต่อร่างกายหลากหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็น  ตับ ระบบย่อยอาหาร  ระบบสืบพันธุ์ จะมีการส่งผลกระทบต่อลูกในท้อง มีการส่งผลต่อสาเหตุของการเกิดโรคทางจิต และมีการส่งผลในการนอนหลับพักผ่อนของเรามากๆด้วย

 ซึ่งในคนที่ต้องการรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า อวัยวะต่างๆของร่างกายได้รับผลจากสิ่งเหล่านี้ยังไงจากการกินเหล้า เบียร์สด หรือไวน์ โดยเราจะสามารถทำการอธิบายให้คุณได้รู้ดังต่อไปนี้เลย

สมอง

เกิดภาวะเมา สภาวะแฮงค์ โรคสมองเสื่อม ความจำเริ่มมีการขาดตกบกพร่อง โรคเสพติดเหล้า แล้วก็อาการลงแดงเมื่อมีความต้องการที่จะเลิกทำการดื่มเหล้า

ตับ

มีความเสี่ยงที่จะมีการเกิดขึ้นของไขมันพอกตับ โรคตับอักเสบ โรคตับแข็ง รวมทั้งตับวาย ซึ่งไม่สามารถที่จะทำการรักษาได้

ระบบทางเดินอาหาร

สามารถที่จะมีการมีปัญหาที่แผลในกระเพาะ เลือดออกในกระเพาะ เส้นเลือดดำที่หลอดของกินพอง หมดสติ แล้วก็สามารถที่จะตายได้เลย ยิ่งไปกว่านี้ ยังมีการเกิดขึ้นของตับอ่อนอักเสบ ซึ่งเกิดขึ้นนานๆก็จะสามารถเป็นเบาหวานตามมา และก็โรคมะเร็งตับอ่อนได้

ระบบหลอดเลือดหัวใจ

เป็นสาเหตุของการเกิดโรคหัวใจวาย โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน ความดันเลือดสูง เส้นโลหิตในสมองแตก อัมพาต อัมพฤกษ์ หรือสามารถที่จะพิการตลอดชีวิตได้เลย

1.ผลต่อหัวใจ ซึ่งในการดื่มในจำนวนที่มากจะก่อให้เกิดสิ่งผิดปกติของกล้ามเนื้อหัวใจ ที่ก่อให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแอ่ สามารถที่จะทำการเกิดหัวใจวายได้ง่ายๆ

2.ผลต่อตับ ซึ่งในการดื่มจะมีผลให้สามารถที่จะเกิดโรคตับแข็งได้ตับที่ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะไม่สามารถที่จะทำหน้าที่ที่สำคัญได้ไม่ว่าจะเป็นวิธีในการย่อยสารอาหารที่เราได้กินเข้าไป

3.ผลต่อผิวหน้า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะก่อให้เกิดเส้นโลหิตขยายตัว ใบหน้าจะเกิดสีแดงอ่อนๆ เกิดจากร่างกายเสียความร้อนออกไปเล็กน้อยจากทางผิวหน้าจนกระทั่งบางทีอาจจะเกิดอาการหนาวจนสั่น หรือเกิดโรคปอดอักเสบได้ง่าย

 

สนับสนุนโดย  เครื่องช่วยฟังขนาดเล็ก

สุขภาพ

ลดน้ำหนักแบบไม่เครียดทำไงได้บ้างนะ 

ลดน้ำหนักแบบไม่เครียด เพื่อนๆและสาวๆ ที่อยากลดน้ำหนักหรือลดความอ้วน แต่อยากลดแบบไม่เครียด ทำยังไงได้เรามาดูกันเลย เพราะว่าการลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนไม่จำเป็นเลยที่จะลดแบบจริงจังหรือเครียดกับมันขนาดนั้นหรอกนะ ไม่เชื่อมาดูกัน

-กินอาหารที่เราชอบ แต่เลี่ยงของมันของทอด 

เพื่อนๆและสาวๆ ยังสามารถกินอาหารที่ตัวเองชอบได้เลยนะ แต่แนะนำว่าต้องเลี่ยงการกินอาหารพวกทอดๆ หรือ ของมันๆ นั้นละ เพราะว่าการที่เราลดหรือเลี่ยงของทอด ของมันได้เลย เพราะว่าของทอดของมัน จะทำให้เราลดยาก หากลดหรือเลิกได้รับรองน้ำหนักหรือร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน

-ทำอาหารคลีนกินเอง

เพื่อนๆและสาวๆ ที่อยากผอมไวขึ้น ลองหันมาทำอาหารกินเองดูสิ เพราะว่าการที่เราได้ทำอหารนั้นจะสนุกและเอนจอย    เครื่องช่วยฟัง    และยังทำให้เราได้หัดทำอาหารที่ดีต่อสุขภาพและกินเองด้วยนะ ดังนั้นเพื่อนๆและสาวๆ ลองหันมาทำอาหารคลีนกินเองดูสิ อร่อยถูกปากและยังไม่มีอะไรที่ต้องกังวลว่าจะทำให้อ้วนขึ้นด้วยนะ 

-กินอาหารเย็นแค่พอประมาณและไม่กินเกิน 6 โมงเย็น

เพื่อนๆและสาวๆ ที่กินอาหารเย็นเ ควรจะกินอาหารเย็นแค่พอประมาณเท่านั้นอย่ากินเยอะเกินไป และที่สำคัญการกินที่ดี ก็ควรกินก่อน 6 โมงเย็น เพราะว่ามันจะช่วยทำให้เราได้ย่อยอาหารจนหมดก่อนเข้านอนนั้นเอง 

-เน้นการกินโปรตีนให้มากขึ้น

เพื่อนๆและสาวๆที่อยากลดน้ำหนักหรือลดไขมัน แนะนำว่าเพื่อนๆและสาวๆ ควรจะเน้นการกินโปรตีนให้มากขึ้น เพราะว่าการกินโปรตีนเยอะขึ้นจะทำให้เพื่อนๆและสาวๆ นั้น สามารถอิ่มนานและลดการกินจุบจิบระหว่างวันได้ดี  เพื่อนๆและสาวๆ ก็เน้นกินโปรตีนในแต่ละมื้อให้มากขึ้นนะ

-เคี้ยวช้าๆ หรือ กินช้าๆ ช่วยได้ 

เพื่อนๆและสาวๆ ที่อยากลดน้ำหนักหรือลดไขมัน แนะนำว่าให้กินให้ช้าๆ หรือ เคี้ยวช้าๆ เข้าไว้ เพราะว่าการที่เราเคี้ยวช้าหรือเคี้ยวละเอียดๆ จะทำให้เรากินอาหารได้ไม่เยอะ เพราะว่าร่างกายเราจะสั่งไปที่สมองว่าเราอิ่ม ตอนที่เรากินอาหารได้ไม่เยอะเกินไปนั้นเอง เพราะว่ากว่าสมองจะรู้ว่าอิ่มก็คือต้องกินข้าวไปแล้วอย่างน้อย 20 นาทีบละ

-ดื่มน้ำให้มากขึ้น

การที่เราจะอิ่มท้องหรือกินน้อยลงจะต้องหันมาดื่มน้ำมากขึ้น อย่างดื่มก่อนกินอาหาร 1 แก้ว เพื่อที่จะได้อิ่มเร็วขึ้นและกินอาหารน้อยลง และแนะนำว่าเพื่อนๆ และสาวๆ ควรจะหันมาดื่มน้ำให้เยอะในแต่ละวันด้วยนะ