หมวดหมู่: สุขภาพ

คำถามนี้นั้นมักเป็นสิ่งที่หลายๆคนค่อนข้างจะสงสัยโดยเฉพาะคนที่มีอาการป่วยหรือคนที่มีร่างกายไม่แข็งแรงอาจจะส่งสัยว่าถ้าป่วยหรือไม่แข็งแรงนั้นสามารถที่จะออกกำลังกายได้หรือไม่ ถึงแม้จะมีร่างกายที่ไม่แข็งแรงหรือมีอาหารป่วยออดแอดอยู่เสมอต้องบอกเลยว่าสามารถที่จะออกกำลังกายได้นั่นเอง เพราะการออกกำลังกายนั้นจะสามารถไปช่วยในเรื่องการสร้างความแข็งแรงให้ร่างกายนั่นเอง

แต่การออกกำลังกายสำหรับคนที่ไม่แข็งแรงหรือมีอาการป่วยนั้นอาจจะต้องมีการออกกำลังกายอยู่ภายใต้คำสั่งแพทย์หรือออกกำลังกายขณะมีคนเฝ้าหรือมีคนคอยเทรนให้นั่นเอง เพราะถ้าหากจะออกกำลังกายด้วยตัวเองตามลำพังนั้นอาจจะเกิดอุบัติเหตุหรืออาการป่วยกำเริบได้นั่นเอง ดังนั้นแล้วถึงแม้ผู้ที่มีร่างกายไม่แข็งแรงและมีอาการป่วยนั้นจะสามารถออกกำลังกายได้แต่ก็จะต้องออกกำลังกายด้วยความระมัดระวังนั่นเองและการออกกำลังกายนั้นเมื่อมีการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องก็จะทำให้ร่างกายที่ไม่แข็งรงหรือมีอาการป่วยอยู่ตลอดนั้นสามารถกลับมาแข็งแรงได้อีกด้วย

กรออกกำลังกายสำหรับคนที่ร่างกายไม่แข็งแรงและผู้ที่ป่วยหรือเป็นโรคประจำตัวนั้น จะเน้นการออกกำลังกายแบบเบาๆแล้ะจะสามารถออกกำลังกายได้หนักขึ้นหลังจากออกกำลังกายไปสักระหนึ่งแล้วนั่นเอง โดยการออกกำละงกายในช่วงแรกนั้นอาจจะเน้นไปทางการออกกำลังกายเบาก่อน เช่นการเดินในสวนสาธรณะ การเดินบนลู่แบบช้าๆ และค่อยเพิ่มลำดับความหนักขึ้นมาเรื่อยๆ

เมื่อรู่สึกว่าร่างกายและปอดของเรานั้นสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่แล้วเราก็อาจจะขยับจากกการเดินขึ้นมาเป็นการจ๊อกกิ้งหรือวิ่งแบบเบาๆหรือการปั่นจักรยาน สามารถปั่นได้ทั้งจักรยานแบบเป็นคันและจักรยานแบบปั่นกับที่ ซึ่งก็แล้วแค่ความชอบของแต่ละคนนั่นเอง แต่จะแนะนำว่าควรเน้นเป็นการออกกำลังกายที่ได้พบผู้คนเพราะการพบประผู้คนหรือการออกไปสูดอากาศภายนอกนั้นจะสามารถช่วยบรราอาการร่างกายไม่แข็งแรงและร่างกายที่อ่อนแอได้นั่นเอง 

เมื่อเริ่มรู้สึกว่าเรานั้นเริ่มแข็งแรงขึ้นอีกระดับเราจึงจะสามารถลองออกกำลังกายชนิดอื่นๆได้ เช่นการวิ่ง การว่ายน้ำหรือกีฬาอื่นที่เราสนใจและเราคิดว่าเรานั้นสามารถจะทได้นั่นเอง แต่อาจจะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของหมอหรือผู้เชี่ยวชาญในกีฬาด้านนั้นๆนั่นเอง และเมื่อเรามีการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องและกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ก็สามารถที่จะทำให้ร่างกายของเราที่ไม่แข็งแรง

หรือมีอาการป่วยอยู่บ่อยๆนั้นกลับมาแข็งแรงและสามารถใช้ชีวิตอย่างปกติได้นั่นเองดังนั้นแล้วคนที่คิดว่าร่างกายตัวเองนั้นไม่แข็งแรงนำเลยว่าการออกกำลังกายจะสามารถรักษาทั้งด้านร่างกายและจิตใจได้อย่างดีที่สุด

ได้รับการสนับสนุนโดย  ซื้อหวยฮานอยวันนี้

มาถึงพิธีกรสุดเอ็กซ์คนนี้ นางนั้นมีหุ่นที่น่าเซี๊ยะอย่างมากเลยทีเดียว สำหรับนางคนนี้เดินทางสายเซเลปอย่างจริงจังเลยทีเดียว เริ่มต้นทั้งการเป็นนางแบบสาวหุ่นสะบึ้ม แล้วก็ตามมาด้วยการได้เป็นนักแสดง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับบทเป็นตัวเอกก็ตาม แต่นางก็จะได้รับบทเอ็กซ์ๆในหนังอยู่ และเมื่ออายะมากขึ้นนางก็ได้หาหนทางจนกลายเป็นพิธีการสุดแซปที่ใครๆต่างมองหุ่นของเธออย่างไม่เลิกลา ผมว่าเธอคงเป็นสาวมั่นมากเลยทีเดียว เพราะทำอะไรก็มีแต่คนชื่นชมในความเป็นเธอ แล้วเธอคงดูดบุหรี่บ้างแหละ ถึงจะไม่ค่อยเคยเห็นก็เถอะ นางเป็นสาวที่สุดจริงๆ ถือเป็นนางแบบมืออาชีพทั้งในงานและบนถนนจริงๆ ยอมรับในความเป็นมืออาชีพทั้งวงการมายาและชีวิตจริงนางจริงๆเชียว

นางมีผมที่สวยอย่างมากเลย จริงอยู่ที่นางเป็นผู้หญิงไม่ควยมีความเกี่ยวของกับอบายมุขต่างๆ แต่ก็แปลกมากเลยทีเดียว ที่สาวผมทองสุดสลวยคนนี้ถึงมีความเท่มากเลยในการดูดบุหรี่ไฟฟ้านี้ ไม่ทราบดีเหมือนกันว่านางเริ่มสูบบุหรี่ไฟฟ้าตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่บุหรี่ไฟฟ้าของนางนั้น เป็นอะไรที่เท่ทุกแบบจริงๆ ไม่รู้ไปหามาจากไหนนัก มันเป็นแบบมีดีไซน์สวยสุดๆ

แทบอยากจะขอใช้ต่อจากนางเมื่อนางทิ้งเลยทีเดียว นางเป็นเซเลปที่เรียกได้ว่า ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็มีความน่าหลงไหลจริงๆ รวมถึงนางเป็นเซเลปอีกหนึ่งคนที่มีภาพหลุดสุดสยิวเยอะแยะเลยทีเดียว เห็นแล้วขนลุกไปหมด นางนั้นเป็นขวัญใจหลายๆคนแน่ๆล่ะ ความเป็นนางแบบของนางนั้นแสดงออกมาได้ทุกโลกเลย นางเป็นสุดยอดเซเลปที่วางตัวได้เท่ดีจริงๆ ต้องยอมรับเลยว่าบุหรี่ไฟฟ้าแนวแฟชั่นของนางกับการเป็นตัวนางนั้นเข้ากันดีแบบสุดๆ

เป็นอีกหนึ่งเซเลปคนดังที่ไม่เคยสนใจกระแสสังคมสักเท่าไหร่ นางจะมีรูปหลุดมากขนาดไหน นางก็ยังมั่นใจในความเป็นแฟชั่นนิสต้าตัวจริงของนาง นี่แหละคือคนระดับแนวหน้าในวงการ ถ้าเกิดว่าได้เห็นตัวเป็นๆนางคงจะเห็นลำแสงออร่าจับอย่างแน่นอน แม้อายุจะมากขึ้น แต่กลับดูยิ่งมีความหน้าหลงไหลจริงๆคนๆนี้ น่าเสียดายที่ช่วงหลังๆมานี้อาจจะไม่ค่อยได้เห็นผลงานของนางสักเท่าไหร่ ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นแฟนตัวยงให้นางด้วยนะครับ อยากจะรู้จริงๆว่าเป้นเพราะอะไรการแต่งตัวของนางจึงดูหน้าดึงดูดมากๆเลย รวมถึงบุหรี่ไฟฟ้าที่นางเลือกใช้นั้น ก็เป็นแบรนด์ที่น่าหลงไหลเหมือนตัวนางเช่นกัน

สนับสนุนโดย  เครื่องช่วยฟัง

              ประโยชน์ของโยเกิร์ตนั้น  เราต่างก็รู้กันดีว่ามีเยอะมากมายแค่ไหน และการคนส่วนใหญ่มักจะกินโยเกิร์ตกันในตอนเช้าและก่อนนอน ซึ่งหลายคนก็คงจะไม่รู้ที่จริงแล้วการกินโยเกิร์ต   กินตอนเช้าหรือก่อนนอนจะดีกว่ากันใช่ไหมคะ ดังนั้นวันนี้เราจึงได้นำข้อมูลดีดีมาฝากกันค่ะว่าหากเรากินโยเกิร์ตก่อนนอนแล้วเราจะได้อะไรบ้าง       

• ประโยชน์ของโยเกิร์ตจะช่วยในเรื่องของการสร้างกล้ามเนื้อที่เราสูญเสียไปขณะที่เรามีการทำงานหรือออกกำลังกายดังนั้นการที่เรากินโยเกิร์ตก่อนนอนจะช่วยให้ ร่างกายของเราได้มีการสร้างกล้ามเนื้อขึ้นมาทดแทนจากที่เสียไปในช่วงที่เรานอนหลับได้แต่เราควรจะมีการเลือกกินโยเกิร์ตในช่วงก่อนนอนโดยเลือกที่มีไขมันต่ำ และเป็นรสธรรมชาติและมีโปรตีนสูงเพื่อไม่ให้เรากินแล้วอ้วน
• หลายคนคงต้องรู้อยู่แล้วว่า การกินโยเกิร์ตนั้นจะช่วยให้ขับถ่ายได้ดี เป็นการดีท็อกลำไส้ ดังนั้นการที่เรากินโยเกิร์ตก่อนนอนเป็นประจำจะสามารถช่วยให้เราไม่พบกับปัญหาท้องผูกแน่นอน หรือหากตอนนี้ใครที่กำลังมีปัญหาท้องผูกอยู่ก็ลองกินโยเกิร์ต สักประมาณหนึ่งอาทิตย์ก็จะเริ่มเห็นผลแล้วระบบขับถ่ายกลับมาทำงานเป็นปกติ     
• สำหรับใครที่มักจะหิวในเวลากลางคืนหรือในช่วงดึกดึก มักจะชอบหิวแล้วต้องการอะไรกิน แนะนำการกินโยเกิร์ต จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่กินแล้วอิ่มสบายท้องแถมยังไม่ส่งผลให้เราอ้วนมากขึ้นด้วย แต่เนื่องจากโยเกิร์ต มีหลายรสชาติ หากอยากควบคุมน้ำหนักควรเลือกที่มีน้ำตาลน้อย ไขมันเป็น 0 และควรเลือกที่เป็นรสธรรมชาติจะดีที่สุด 
• การกินโยเกิร์ตจะช่วยให้เรานอนหลับได้ยาวนานมากขึ้น เพราะในโยเกิร์ตจะมีสารที่สามารถกินเข้าไปแล้วทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย
• สำหรับบางคนที่ต้องดื่มนมก่อนแล้วแล้วจะมีอาการนมเกิดขึ้น หรือบางครั้งนมในตู้เย็นหมดแล้วไม่มีนมทานก่อนนอน เราก็สามารถแก้ขัดได้ด้วยการกินโยเกิร์ต ก่อนนอเข้าไปแทน เพราะช่วยให้อิ่มได้เหมือนกันที่สำคัญมีประโยชน์ในเรื่องช่วยการขับถ่ายตื่นเข้ามา จะช่วยให้เราขับถ่ายได้เป็นเวลาขึ้นอีกด้วย

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ รู้ถึงข้อดีของโยเกิร์ตกันอย่างนี้แล้วก็อย่าลืมไปหามาไว้ทานกันนะคะ โยเกิร์ต มีหลายรสชาติ ดังนั้นหากเราต้องการกินแล้วให้ประโยชน์สูงสุดควรเลือกที่เป็นโยเกิร์ตไขมันต่ำ หรือไขมัน 0% และควรจะเป็นรสธรรมชาติจะช่วยให้เรากินแล้วไม่อ้วนค่ะ

สนับสนุนเรื่องราวโดย  แทงหวยออนไลน์

       ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19นั้นธุรกิจที่กำลังเจริญและได้รับความนิยมมากอยู่ในขณะนี้ก็คือธุรกิจบริการรับส่งอาหารเดลิเวอรี่เพราะผู้คนส่วนใหญ่มักจะไม่อยากออกไปนอกบ้านและบางคนก็ไม่สะดวกที่จะทำอาหารกินเองเพราะจะต้องมีการออกไปซื้ออาหารสดมาทำกินเองภายในครอบครัวดังนั้นส่วนใหญ่จึงมองเห็นความสะดวกสบายด้วย

การสั่งอาหารเดลิเวอรี่มากินที่บ้านแทนและบางคนก็ถูกกักตัว 14 วันจากการไปอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงมาซึ่งการจะมานั่งทำอาหารกินเองอาจจะไม่ได้รับความสะดวกมากๆส่วนใหญ่จึงใช้บริการเดลิเวอรี่แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าหากเรามีการสั่งอาหารไปทานที่บ้านแล้วเราจะปลอดภัยจากเชื้อไวรัสโควิด-19วันนี้จึงมีวิธีการแนะนำสำหรับคนที่มักสั่งอาหารเดลิเวอรี่มาทานว่าควรจะทำอย่างไรถึงจะให้ปลอดภัยและห่างไกลจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19

1. ควรจะมีการสั่งอาหารที่มีการปรุงสุกใหม่ๆ พยายามงดการสั่งอาหารที่เป็นอาหารสุกๆดิบๆมากินในช่วงนี้เช่นอาหารประเภทสเต็กหากจะกินสเต็กก็ควรจะเป็นสเต็กที่ปรุงสุก 100 เปอร์เซ็น
2. หากมีการสั่งอาหารมาแล้วยังไม่รับประทานในทันทีก่อนรับประทานอาหารที่สั่งมาควรจะนำอาหารนั้นไปทำการเวฟให้มีความร้อนเพื่อเป็นการฆ่าเชื้อโรคก่อนนำมากิน
3. ก่อนการกินอาหารควรจะมีการดมกลิ่นก่อนว่าอาหารนั้นมีกลิ่นเหม็นอาหารบูดเสียหรือไม่รวมถึงดูสภาพของอาหารจากกล่องและลักษณะหน้าตาอาหารก่อนว่าอาหารนั้นมีคุณภาพหรือมีความสะอาดหรือไม่ก่อนที่จะนำมารับประทาน
4. พนักงานเดลิเวอรี่มาส่งอาหารควรจะมีการให้แขวนถุงอาหารไว้ตรงที่ประตูไม่ควรรับประทานอาหารปากทางพนักงานเดลิเวอรี่โดยตรงและควรจะมีการสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกไปรับอาหารกับพนักงานและที่สำคัญหากจ่ายเงินก็ควรจะมีการใส่ถุงมือก่อนที่จะมีการหยิบเงินยื่นให้กับพนักงานเดลิเวอรี่ป้องกันการสัมผัสกันโดยตรง
5. เมื่อรับอาหารมาเรียบร้อยแล้วควรจะมีการล้างมือทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคที่มีอีกครั้งหนึ่งเชื้อโรคที่ติดอยู่ตามถุงที่ใส่อาหารมาก็ได้ดังนั้นจะมีการล้างมือด้วยน้ำสบู่ ประมาณ 2 นาทีรวมถึงอาจจะมีการใช้เจลล้างมือเพื่อฆ่าเชื้อโรคก่อนที่จะไปหยิบจับสิ่งของอื่น

       ข้อปฏิบัตินี้เป็นข้อมูลเบื้องต้นที่ควรจะทำเป็นประจำทุกครั้งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการสั่งอาหารเดลิเวอรี่เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าร้านอาหารที่ทำอาหารมาส่งเรานั้นมีความสะอาดมากน้อยแค่ไหนหรือพนักงานที่นำอาหารมาส่งเรานั้นติดเชื้อไวรัสหรือไม่ดังนั้นทางที่ดีเราจึงควรมีการป้องกันตนเองเพื่อลดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสโควิด-19 

ได้รับการสนับสนุนโดย  ชุดตรวจซิฟิลิส

       คงพูดได้ว่าในช่วงนี้ใครๆหลายๆคนต่างก็พากันเครียดกันทั้งนั้นเพราะด้วยสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาที่กำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบันนี้ยังไม่มีแนวโน้มว่าสถานการณ์จะดีขึ้นได้เมื่อไหร่ซึ่งทางโฆษกรัฐบาลที่ดูแลเรื่องของการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าก็เคยออกมาบอกไว้ว่าถึงแม้ยอดจำนวนผู้ติดเชื้อจะเป็นศูนย์แต่ก็ยังไม่สามารถวางใจได้ต้องรอให้เป็นศูนย์ประมาณ 4 เดือนติดต่อกันถึงจะสามารถเข้าสู่สภาวะปกติได้ซึ่งแน่นอนว่ากว่าจะถึงเวลานั้นหลายคนคงเครียดแทบอยากจะตายกันเลยทีเดียวดังนั้นเรามาหาวิธีการคลายความเครียดเพื่อที่เราจะได้มีสุขภาพจิตที่ดี

        อย่างที่เรารู้กันอยู่ว่าตอนนี้เราเครียดเพราะเรามีการเสพข่าวสารมากมายจากทุกช่องทางไม่ว่าจะเป็นจากทางทีวี  หนังสือพิมพ์  วิทยุ หรือแม้แต่ข่าวสารผ่านระบบออนไลน์อย่างเช่นเว็บข่าวอีกทั้งยังมีพวก Twitter Facebook ให้เราติดตามข่าวสารซึ่งมีทั้งข่าวจริงและข่าวปลอมมากมายปะปนกันไปหมดทำให้เราเริ่มมีความเครียดวิตกกังวลจากการติดตามข่าวสารเหล่านี้ดังนั้นหากเป็นไปได้เราควรจะเข้าไปติดตามข่าวสารเหล่านี้ให้น้อยลงจากเดิมโดยอาจจะดูข้อมูลแค่เพียงวันละ 1-2 ครั้งเท่านั้นก็พอเพราะยิ่งเราดูมากเท่าไหร่จะกลายเป็นว่าเราจะมีความกลัวมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นเพื่อให้จิตใจเราผ่อนคลายติดตาม

แค่เพียงเล็กน้อยจากที่มีการประกาศออกมาจากหน่วยงานของราชการก็จะทำให้เราไม่เครียดมากนักและหากเรามีความเครียดขึ้นมาเมื่อไหร่การที่เราทำกิจกรรมร่วมกับคนในครอบครัวก็จะสามารถช่วยเราได้ไม่ว่าจะเป็นการดูหนังฟังเพลงและพยายามอย่าคิดมากถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถออกไปช้อปปิ้งหรือไปเที่ยวที่ไหนเพื่อเป็นการผ่อนคลายแต่เราก็สามารถอยู่ร่วมกับคนในครอบครัวของเราได้

ดังนั้นการหากิจกรรมทำร่วมกับคนในครอบครัวจึงจะทำให้เราหายเครียดได้เช่นอาจจะชวนกันไปปลูกต้นไม้รอบบ้านปลูกพืชผักสวนครัวหรือหาเกมมาเล่นร่วมกันกับคนในครอบครัวซึ่งวิธีการนี้จะยิ่งทำให้เราสนิทกับคนในครอบครัวมากขึ้นหรือถ้าหากเราไม่ได้อยู่กับคนในครอบครัวเราก็สามารถพูดคุยกับพวกเขาเหล่านั้นผ่านทางโปรแกรมมือถือต่างๆ

ไม่ว่าจะเป็นการแชทคุยกันการ Video Call ซึ่งเรามีโปรแกรมต่างๆมากมายที่จะสามารถให้เราสนทนากับคนที่เรารักถึงแม้จะอยู่ไกลกันก็ตามและที่สำคัญเราควรดูแลร่างกายของเราให้แข็งแรงอยู่เสมอโดยออกกำลังกายและหาอาหารที่มีประโยชน์รับประทานโดยงดการดื่มเหล้าหรือสูบบุหรี่

เพราะจะยิ่งทำให้เราหมกมุ่น  และมีความเครียดมากขึ้นทำให้เราสมองไม่ปลอดโปร่งดังนั้นหากเราลดเหล้าลดบุหรี่ได้ก็สามารถทำให้เรามีความสุขกับชีวิตได้และหากแม้ลองทำแล้วยังไม่ดีขึ้นก็ลองโทรไปที่ 1323 ซึ่งเป็นสายด่วนสุขภาพจิตจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษา ทำให้เราไม่จำเป็นจะมาต้องแบกรับความเครียดอยู่คนเดียวอีกต่อไป

ได้รับการสนับสนุนโดย  ซื้อหวยฮานอย เว็บไหนดี

วันนี้เราจะมาบอกวิธีการที่จะช่วยทำให้คุณนอนหลับง่ายขึ้น เพราะการนอนหลับเป็นเรื่องที่คุณต้องใส่ใจด้วย 

เพราะการที่คนเราจะทำงานให้มีประสิทธิภาพ ควรนอนอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวันเพื่อที่จะได้ให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ และการนอนที่ดีก็เป็นที่มาของการที่คุณจะมีสุขภาพดีด้วยนะ 

6 วิธี ที่จะทำให้การนอนของคุณดีขึ้น

ออกกำลังกายเป็นประจำดูสิ การออกกำลังกายจะช่วยทำให้คุณเหนื่อยล้าจากการที่ได้ออกกำลังไป ดังนั้นจะทำให้คุณหลับสบายและหลับได้ลึกยิ่งขึ้นนะ แต่คุณห้ามออกกำลังกายก่อนนอน 1-2 ชั่วโมงนะ เพราะมันจะทำให้ร่างกายคุณหลับไม่สนิท ถึงแม้คุณกำลังจะหลับอยู่

ไม่หลับตอนกลางวัน หรือ ตอนเย็น การที่คุณหลับยากคุณเคยสักเกตุดูหรือไม่ว่า ช่วงตอนกลางวันหรือตอนเย็นคุณนั้นเผลอนอนพักไปหรือไม่ หากคุณนอนกลางวันไปหรือแค่งีบหลับช่วงเย็น มันจะทำให้คุณนอนหลับในตอนกลางคืนยากนะ หากคุณเพลียและต้องการนอนตอนกลางวันหรือตอนเย็นนั้นคุณนอนได้นะ แต่อย่าเกิน 30 นาที 

งดชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนนะ เพราะการที่คุณดื่มสิ่งเหล่านี้ในช่วง 15.00 น. เป็นต้นไป มันมีโอกาสทำให้ตอนกลางคืนคุณจะนอนไม่หลับได้นะ 

งดมื้อดึก ยิ่งกินอาหารมื้อดึก หนักๆก่อนนอนจะทำให้ระบบการย่อยทำงานหนัก ซึ่งจะส่งผลให้เราหลับยากขึ้นและร่างกายก็ไม่ยอมหลับตามในขณะที่เรานั้นหลับไปแล้วด้วย

งดดื่มน้ำเยอะๆ ก่อนนอน การดื่มน้ำเยอะนั้นดีนะ แต่หากคุณกินผิดเวลามากินช่วงเย็นเยอะๆหรือก่อนนอนเยอะๆ มันจะส่งผลกับคุณตอนกลางคืนแน่นอนเพราะคุณจะต้องสะดุ้งหรือรู้สึกตัวขึ้นมาเพื่อเข้าห้องน้ำ ยิ่งถ้าคุณต้องตื่นกลางคืนบ่อยครั้ง นั้นก็แปลว่าคุณก็ไม่ได้มีการนอนที่มีประสิทธิภาพนะ

งดเล่นอุปกรณ์สมาร์ทโฟน หรือ มือถือ หรือ tablet ก่อนเวลาเข้านอนอย่างต่ำ 30 นาที เพราะการที่คุณเล่นมือถือ หรือ tablet ก่อนนอนนั้น มีผลอย่างมากที่จะทำให้ร่างกายคุณหลับยากมากๆเพราะ เพราะแสงสีฟ้าบนหน้าจอเหล่านี้ ส่งผลต่อร่างกายโดยตรงเพราะการที่คุณมองเห็นสีฟ้านั้นเป็นการที่ไปกระตุ้นให้ร่างกายคิดว่ายังไม่มืดและสั่งให้หลั่งสารเมลาโตนินทำให้ก่อนนอนนั้นเป็นเรื่องยาก และทำให้ร่างกายไม่หลับอย่างเต็มที่อีกด้วย เพราะฉะนั้นก่อนนอน คุณเปลี่ยนมานั่งอ่านหนังสือสักเล่มแทนดูสิ รับรองหลับไม่ยากแน่นอน

สนับสนุนโดย  แทงหวยมาเลย์

พ่อแม่หลายๆท่านที่มีลูกต้องการอยากให้ลูกของเรามีภาวะสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ไม่เจ็บป่วยได้ง่ายโดยเฉพาะเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 2 ขวบ ที่ภูมิต้านทานภายในร่างกายยังมีอยู่น้อย ทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย 1 ในนั้นคงหนีไม่พ้นโรคส่าไข้ในเด็ก หรือเรียกอีกอย่าว่าโรคหัดกุหลาบ เป็นโรคที่เกิดขึ้นในเด็กเล็ก

ซึ่งจะมีไข้สูงประมาณ 3 วัน เป็นไข้สูงตลอด อุณหภูมิอยู่ประมาณ 38-39 องศาเซลเซียส มีไข้สูงโดยไม่ทราบสาเหตุ และอาจจะไม่มีภาวะอย่างอื่นร่วมด้วย เหมือนกับการเป็นไข้หวัดธรรมดา หรือไข้หวัดใหญ่ โรคไข้ส่านี้เกิดจากการติดเชื้อไวรัส HHV6 ซึ่งจะแตกต่างจากเชื้อที่เกิดจากการเป็นไข้หวัดธรรมดา ที่เกิดจากการการติดเชื้อแบคทีเรีย พบว่าแนวทางการรักษาคือรักษาตามอาการไข้ที่เป็นอยู่

โดยหากมีไข้ให้เช็ดตัวลดไข้ ร่วมกับการกินยาพาราเซตามอล ไม่จำเป็นต้องได้รับยาฆ่าเชื้อ เพราะเป็นการติดเชื้อไวรัส สามารถหายได้เอง เมื่อดูแลได้ถูกต้องตามอาการที่เป็นอยู่ โดยอาการแสดงที่พบในเด็กที่เป็นส่าไข้ คือหลังจากที่ไข้ลดลง จะมีผื่นขึ้น โดยเริ่มจากบริเวณใบหน้า หลังจากนั้นผื่นจะขึ้นตามหลัง แขนขา

ซึ่งผื่นที่ขึ้นจะแตกต่างจากผื่นแพ้ทั่วไป โดยจะไม่มีอาการคัน อาการผื่นขิ้นจะเป็นอยู่ประมาณ 3 วัน หลังจากนั้นผื่นจะหายไปเอง โดยที่ไม่ทิ้งร่องรอยของผื่นหรือแผลเป็นไว้ แต่ถ้าหากมีผื่นขึ้นแต่ยังคงมีไข้สูง ควรรีบไปพบแพทย์ เพราะอาจจะไม่ใช่อาการของโรคส่าไข้ได้ ซึ่งการดูแลในระหว่างที่เด็กมีไข้สูง ควรมีการเช็ดตัวที่ถูกต้อง

โดยการเช็ดตัวขึ้นไปตามแขนขา ตามรอยเปิดของรูขุมขน เพื่อเพิ่มการระบายความร้อนให้ดีขึ้น นอกจากนี้เด็กบางคนจะมีอาการกินข้าวลำบาก ควรเน้นการรับประทานอาหารอ่อนที่กินได้ง่าย และดูแลให้จิบน้ำบ่อยครั้ง เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำในระหว่างที่มีการระบายความร้อนจากอาการไข้ การรับประทานยาลดไข้พาราเซตามอลบางครั้งอาจจะทำให้ไข้ไม่ลดลงทันที

ต้องหมั่นเช็ดตัวลดไข้ เพราะหากเด็กมีไข้สูงอาจเสี่ยงติอการเกิดภาวะชักในเด็กเล็กได้ เนื่องจากการทำงานของสมองทารกยังเจริญได้ไม่เต็มที่ การป้องกันการเกิดโรคส่าไข้ สามารถทำได้โดยการล้างมือเด็กเล็กบ่อยๆ ป้องกันการติดเชื้อไวรัสจากการเอามือเข้าปาก จากการไปเล่นของเล่นที่มีเชื้อไวรัสนั้นอยู่แล้ว ซึ่งโรคส่าไข้ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน ดังนั้นสิ่งที่พ่อแม่สามารถทำได้ง่ายๆก็คือการหมั่นล้างมือลูกบ่อยๆนั่นเอง 

สนับสนุนโดย  แทงหวยออมสิน

เมื่อเราอยู่ในช่วงที่มีอายุอยู่ในวัยกลางคนเป็นคนที่เราอยู่ในช่วงของคนทำงานเพราะว่าการที่เราทำงานเราต้องหาเงินที่จะมาเลี้ยงตัวเราเองหรือว่าคนในครอบครัวที่เราต้องดูแลดังนั้นการที่เราทำงานในช่วงนี้เป็นช่วงที่เราต้องทำงานอย่างหนักและไม่ค่อยที่จะมีเวลาในการที่จะพักผ่อนได้มากเท่าไหร่จึงทำให้ร่างกายของเราก็ต้องมาอาการที่ปวดหรือว่าเมื่อยล้า นั้นได้ง่ายการที่เรามีอาการปวดเมื่อยตามร่างกายก็เป็นเพราะว่าเราต้องยืนทำงานเป็นเป็นเวลาที่นานพอสมควร  หรือว่าเราต้องนั่งอยู่กับที่นั้นเป็นเวลาที่นานมาก  ดังนั้นก็ไม่ต้องที่จะแปลกใจเลยว่าเราจะมีอาการที่เมื่อยล้าจากการที่เราทำงาน  

         เมื่อเรามีอาการที่เมื่อยตามตัวนั้นถ้าเราได้กลับมานอนพักซักครู่เดี่ยวเราก็จะหายแต่ถ้าเรามีอาการที่ปวดเมื่อยตามร่างกายนั้นเริ่มที่จะมีเวลาที่นานและก็สะสมกับการที่เราไม่ค่อยที่จะมีเวลาเราก็ต้องมีอาการที่ปวดมากขึ้นจึงทำให้เรามีอาการที่ปวดมากขึ้นเราแทบที่จะลุกจากที่นอนนั้นไม่ไหวก็มีแต่ว่าเราก็ต้องที่จะลุกเพื่อที่เราต้องไปทำงาน

        ดังนั้นเมื่อเรามีอาการที่ปวดเมื่อยตามร่างกายสิ่งแรกที่รึกถึงคือการที่เราจะกินยาแก้ปวดเพราะว่าเราจะกินยาแก้ปวดเพื่อที่จะให้หายจากอาการที่เราปวดและเราก็ไปหาซื้อของที่เราต้องมาบรรเทาอย่างเช่นยาทาเพื่อที่จะบรรเทาอาการที่เราปวดตามร่างกายแบบนี้  หรือว่าการที่เราจะใช้ยาทาก็กลัวว่าจะเปลื้อนเสื้อผ้าเราก็หาที่ยาแบบที่แผ่นในการที่เราจะเอามาแปะที่บริเวณที่เรามีอาการที่จะปวดเพื่อที่จะรักษาอาการที่เราปวดหรือว่าบรรเทาอาการที่เราปวดและในบางคนนั้นก็ใช้วิธีนี้เพราะว่าเลี่ยงจากการที่เราจะไม่ต้องกินยา  และไม่ต้องที่จะทายาแต่ว่าใช้แผ่นที่ติดตามร่างกายที่เรามีอาการปวดนั้นแทน  จะช่วยในเรื่องของการที่เราบรรเทาอาการที่เราปวดไปได้เยอะเลย

      แต่ว่าราคานั้นก็อาจจะมีราคาที่แพงมากหน่อยแต่ว่าใช้ได้แคครั้งเดียว  ส่วนใหญ่คนที่ทำงานนั้นเลือกที่จะกินยาเพราะว่ามีราคาที่ถูกและเราก็สามารถที่จะหายปวดได้แต่ว่าเราต้องใช้เวลาที่นานพอสมควร  ดังนั้นใครที่มีอาการที่ปวดเมื่อยตามตัวหรือว่าร่างกายก็ไม่ต้องแปลกใจเพราะว่าเราต้องทำงาน  หรือว่าเราต้องยืนหรือว่านั่งในการทำงานนั้นเป็นเวลาที่นานเราก็ควรที่จะปรับเปลี่ยนในการท่านั่งบ้างโดยการที่เราลุกขึ้นเดินบ้าง  หรือว่าส่วนคนที่ยืนทำงานก็เดินบ้างหรือว่าเราก้ยกขาบ้างเพื่อที่จะให้เลือดนั้นเดินหรือว่าไม่ยืนอยู่กับที่เป้นเวลาที่นานๆ 

ได้รับการสนับสนุนโดย  สมัครเว็บหวยฮานอย