เป็นเรื่องราวที่น่าเศร้าสลดใจเป็นอย่างมากสำหรับเด็กชายอายุเพียงแค่ 6 ขวบเท่านั้นที่ต้องมาเผชิญชะตากรรมไม่ต้องค่ะทั้งพ่อและแม่ทางที่ตนเองนั้นอายุยังน้อยคือเรื่องราวของเด็ก 6 ขวบในครั้งนี้เป็นเด็กที่เกิดในจังหวัดระนอง โดยชาวบ้านได้เล่าเรื่องราวดังกล่าวนี้ให้กับสำนักข่าวว่า มีครอบครัวหนึ่งซึ่งภรรยานั้นเสียชีวิตลง
และมีการจัดงานศพอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดระนองด้วยวัดดังกล่าวชื่อว่าวัดหาดส้มแป้นซึ่งขณะที่มีการจัดงานศพกันอยู่นั้นก็มีคนไปช่วยงานศพกันมากมายโดยผู้เสียชีวิตนั้นมีลูกชายอยู่ 1 คนอายุเพียงแค่ 6 ขวบเท่านั้นในระหว่างที่มีการจัดงานศพกันเกิดขึ้นเกิดพายุเข้าและมีลมกระชากแรงส่งผลให้ต้นไม้ซึ่งเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ที่อยู่ภายในบริเวณวัดล้มลงใส่ศาลาที่จัดงานศพ
โดยตรงบริเวณดังกล่าวนั้นมีชาวบ้านกำลังนั่งผิงไฟกันหนาวกันอยู่และหนึ่งในนั้นคือสามีของผู้เสียชีวิตที่ชื่อว่านายเอนกพงษ์ ซึ่งหลังจากที่ต้นไม้โค่นเสร็จเรียบร้อยแล้วชาวบ้านก็ได้มีการเข้าไปดูยังจุดเกิดเหตุพบว่าต้นไม้ล้มทับนายเอนกพงศ์จนถึงแก่ความตาย
เป็นที่น่าอเนจอนาถใจของคนที่พบเห็นเป็นอย่างมากเนื่องจากว่าบนศาลานั้นก็เป็นงานศพของภรรยาของนายเอนกพงศ์ในขณะที่ตัวนายเอนกพงศ์นั้นยังไม่ทันได้เผาภรรยาก็ต้องมาเสียชีวิตตายตามภรรยาไปจึงเหลือเพียงแค่ลูกชายเพียงคนเดียวเท่านั้นซึ่งอายุเพียงแค่ 6 ขวบ
โดยชาวบ้านเล่าว่าหลังจากที่เด็กชายหรือว่าต้องสูญเสียทั้งพ่อและแม่ไปในคราวเดียวกันเด็กชายก็นั่งร้องไห้และมีการเปิดจุดธูปไหว้หน้าศพของแม่อีกทั้งยังร้องไห้เสียใจอยู่ตลอดเวลาจนผู้เป็นย่าต้องเข้าไปกอดปลอบใจซึ่งใครที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็พากันสลดใจไปตามๆกันเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามแต่ต้นไม้ที่ล้มทับนายเอนกพงษ์นั้นนับได้ว่าเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ซึ่งมีความสูงถึง 20 เมตรเลยว่ากันว่าต้นไม้ที่ล้มลงมานั้นชื่อต้นก่อนตาหมูซึ่งต้นไม้ชนิดนี้เป็นต้นไม้ที่จะมีอยู่ที่จังหวัดระนองเท่านั้นเป็นต้นไม้พื้นเมืองของจังหวัดระนองเลยทีเดียว
จากเหตุการณ์ในครั้งนี้นับว่าเป็นอุบัติเหตุครั้งร้ายแรงและเป็นการสูญเสียของเด็กน้อยวัย 6 ขวบที่ต้องสูญเสียทั้งพ่อและแม่ไปแต่โชคยังดีที่เด็กน้อยยังมีย่าคอยดูแล ซึ่งคงต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรกว่าที่เด็กน้อยวัยหกขวบจะทำใจกับการสูญเสียในครั้งนี้ได้
สนับสนุนโดย เว็บหวยออนไลน์อันดับ1